AOT ชงบอร์ดลดค่าธรรมเนียม 3 สนามบินกระตุ้นยอดผู้โดยสารหลัง Q2/57 โตต่ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 24, 2014 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) (ทอท.)เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.วันนี้อนุมัติโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการบินของท่าอากาศยาน 3 แห่ง คือ เชียงใหม่, หาดใหญ่, เชียงราย โดยการลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน(Landing Fee)

สำหรับสายการบินเดิมที่มีการเพิ่มเที่ยวบินจะได้ส่วนลดอัตราประมาณ 50% ส่วนสายการบินที่มีการเปิดเส้นทางการบินใหม่ (New Route) จะได้ส่วนลดอัตราประมาณ 30% เพื่อกระตุ้นให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารของท่าอากาศยานภูมิภาค ชดเชยจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองที่เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 57 เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ แคมเปญส่งเสริมการตลาดของท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงรายในกรอบเวลา 3 ปี ส่วนเชียงใหม่กรอบเวลา 1 ปี โดยจะดำเนินการเป็นช่วงๆ ละ 6 เดือน เพื่อประเมินผลและสามารถปรับรายละเอียดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ โดยจะร่วมมือกับการท่องเที่ยวฯและท้องถิ่นในการจัดกิจกรรมส่งเสริมเรื่องแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ เพื่อดึงดูดให้สายการบินทำการบินตรงจากต่าประเทศเข้ามา

"สาเหตุที่ขอกรอบเวลาที่หาดใหญ่และเชียงราย 3 ปีเพราะทั้ง 2 แห่งยังมีขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มได้และหากแคมเปญได้ผลจะเป็นการปรับฐานจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารให้เพิ่มขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวในขณะนี้ได้ ส่วนเชียงใหม่ค่อนข้างเต็มแล้วแต่จำเป๊นต้องทำด้วยเพื่อนำรายได้ที่เพิ่มมาช่วยชดเชยดอนเมืองและสุวรรณภูมิที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ถือว่าเป็นมิติในการบริหารและคุ้มค่า เพราะให้ส่วนลดกับเที่ยวบินที่เพิ่มและเส้นทางบินใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น"นายเมฆินทร์กล่าว

นายเมฆินทร์ กล่าวว่า ปีนี้ ทอท.ตั้งเป้าอัตราผู้โดยสารจะเติบโตที่ 10% แต่ช่วง 2 ไตรมาสแรก ผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิติดลบ 4.1% จากเป้าหมายเติบโต 3.5% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง เติบโตเพียง 17% จากเป้าหมาย 27% จากการประเมินนั้นหากสถานการณ์ยืดเยื้อส่งผลกระทบเป็นเวลา 3 เดือน การเติบโตในภาพรวมของปีนี้จะลดลงเหลือ 7.35% แต่หากกระทบถึง 6 เดือนก็จะเติบโตเพียง 6.9%

ดังนั้น ทอท.จะต้องพยายามบริหารเพื่อให้มีกำไรสุทธิของปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา โดยมี 3 มิติหลักคือ 1.สร้างรายได้จากท่าอากาศยานภูมิภาคเพื่อชดเชยรายได้ของท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ 2. นำทรัพย์สินที่ดินว่างเปล่าทั้งหมดรวม 3,192 ไร่ มาบริหารเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 3. บริหารในเรื่องค่าใช้จ่าย

สำหรับการสร้างมูลค่าจากทรัพย์สินนั้น มีการนำเสนอแผนแม่บทในหลายรูปแบบ โดยภายในปีนี้จะเริ่มพัฒนาที่ดอนเมืองพื้นที่ประมาณ 3 แสนตารางเมตร ภูเก็ตประมาณ 1.2 แสนตารางเมตรได้ โดย ทอท.จะดำเนินการเอง รูปแบบ Airport City ส่วนใหญ่เป็น Non Aero การต่อเชื่อมกับระบบรถไฟสีแดง และการท่องเที่ยว มีผลตอบแทนทางการลงทุน(IRR) ประมาณ 24%

ส่วนที่สุวรรณภูมิจะเป็นธุรกิจแบบใหม่ไม่เชื่อมกับพื้นที่บริการผู้โดยสาร มีหลากหลายรูปแบบ ทั้ง CSR ส่งเสริมสวัสดิการชุมชน เช่น ทำเป็น Sport Music Activity หรือตลาดน้ำในบางช่วงเวลา เป็นต้น หลักการคือต้องบริหารทรัพย์สินที่มีให้เกิดการเคลื่อนไหวและสร้างมูลค่าผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งที่ทำเอง และร่วมทุนตามร่างพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.... (พ.ร.บ.ร่วมการงานฯ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ