(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.25/26 แข็งค่าตามภูมิภาค ประกอบกับราคาทองคำปรับขึ้น

เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนขายทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกขึ้นไปแตะที่ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ ประกอบกับเป็นการแข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียด้วย

"บาทที่แข็งค่าขึ้นมาจาก flow ของการขายทองคำ หลังจากที่ราคาขึ้นไปทะลุ 1,300 ดอลลาร์ นักลงทุนจึงขายทองออกมา จึงเป็นตัวกดให้บาทแข็ง" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.20-32.35 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.2600 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(25 เม.ย.) อยู่ที่ 1.87021% และ THAI BAHT FIX 6M(25 เม.ย.) อยู่ที่ 1.91745%

*ปัจจัยสำคัญ

• เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 102.19/22 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3824 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3846/3846 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.3600 บาท/ดอลลาร์
• สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สสอ.) รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมี.ค.57 อยู่ที่ 178.77 หดตัว 10.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมที่ส่งผลด้านลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรวม เช่น รถยนต์, HDD, ปิโตรเลียม, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง เป็นต้น ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตมี.ค. 57 อยู่ที่ 64.33
• นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังหารือจัดทำงบประมาณประจำปี 2558 โดยเสนอตั้งงบประมาณขาดดุลเต็มเพดานที่จะก่อหนี้ได้ คือ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และรองรับการเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง เพราะเศรษฐกิจไม่ดี โดยปีงบ 2557 นี้ คาดว่าจะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 1 แสนล้านบาท
• นายวัลลภ วิตยากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยในไตรมาสแรกปีนี้คาดว่าการเติบโตอาจจะติดลบที่ 0.2% เนื่องจากฐานการส่งออกของเดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา ยอดส่งออกค่อนข้างสูงโดยมีมูลค่าถึง 20,582 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะบวก 0.2% เนื่องจากการส่งออกเดือนมี.ค.ปีนี้ดีขึ้น แต่จะต้องให้ได้ยอดที่กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะทำให้การส่งออกไตรมาสแรกปีนี้เป็นบวกได้ และไตรมาส 2 มองว่าการส่งออกไทยน่าจะโตได้ที่ 2-3% และครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ที่ 3-4% เนื่องจากขณะนี้การส่งออกในอุตสาหกรรมต่างๆ ดีขึ้น
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดเฟดลดวงเงิน QE ต่อเนื่อง แต่น่าจะส่งผลต่อไทยในวงจำกัด แต่ห่วงต้นทุนทางการเงินอาจสูงขึ้นหากถูกลดอันดับเครดิต
• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ (25 เม.ย.) จากความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.4% ที่ระดับ 137.64 จุด เมื่อเวลา 9.31 น.ตามเวลาโตเกียว นื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียที่ตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่มีแนวโน้มว่ารัสเซียจะถูกคว่ำบาตรระลอกใหม่
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 90 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,090 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,307.64 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.73 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกง
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงเมื่อวันศุกร์ ภายหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 100.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 75 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 109.58 ดอลลาร์/บาร์เรล