"ในส่วนของข้อมูลขนาดบรรจุ และราคาสินค้า เราขอให้ส่งมาให้ภายในเดือน พ.ค. เพื่อที่จะได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเขา(ผู้ผลิต)บอกว่าขายในราคาที่ไม่ได้ปรับขึ้นเลย มีแต่ลดลงด้วยซ้ำ กรมฯ จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการติดตามราคาด้วย" รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว
ส่วนการกำหนดขนาดบรรจุภัณฑ์เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในสินค้าแต่ละประเภทนั้น ทางสมาคมฯ ขอไปหารือกันก่อนว่าจะใช้ขนาดบรรจุภัณฑ์ใดเป็นมาตรฐานของสินค้าในแต่ละประเภท แล้วจึงจะทำหนังสือแจ้งเป็นทางการมาให้กรมการค้าภายในได้รับทราบ เพราะการเปลี่ยนแปลงขนาดบรรจุภัณฑ์ต้องใช้ระยะเวลา โดยเฉพาะอาจจะมีผลกระทบในขั้นตอนการผลิตสินค้า เนื่องจากสินค้าบางรายการมีการกำหนดขนาดบรรจุภัณฑ์มาจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ประกอบกับการที่ผู้ผลิตได้ผลิตสินค้าออกมาในบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายขนาดนั้น เป็นเพราะผู้บริโภคเองที่มีความต้องการสินค้าในแต่ละขนาดบรรจุที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของชีวิตประจำวัน ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงขอไปศึกษาดูผลกระทบต่างๆ ก่อนจะนำข้อมูลกลับมารายงานให้กรมฯ ได้รับทราบ
ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมการค้าภายใน พบว่า สินค้าประเภทสบู่ แชมพู และผงซักฟอกมีการทำปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายขนาดรวมแล้วถึง 102 ขนาดบรรจุ เช่น สบู่ก้อนมี 11 ขนาด, สบู่เหลวมี 9 ขนาด, ผงซักฟอกมี 36 ขนาด, น้ำยาซักฟอก 8 ขนาด และแชมพูมี 38 ขนาด ซึ่งการที่สินค้าแต่ละยี่ห้อและแต่ละประเภทมีขนาดบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายมากเกินไปนั้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและเทียบราคาต่อหน่วยได้ยาก
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มดังกล่าวนี้มีเพียงผงซักฟอกรายการเดียวที่อยู่ในบัญชีสินค้าควบคุมของกรมการค้าภายใน ซึ่งมีมาตรการเพียงแค่ให้ผู้ผลิตแจ้งมาที่กรมฯ ก่อนจะปรับราคาสินค้า ส่วนสินค้าในกลุ่มของแชมพู และสบู่นั้น ยังเป็นเพียงแค่การขอความร่วมมือจากผู้ผลิตเท่านั้น ดังนั้นหากในอนาคตทางสมาคมฯ ไม่ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน ก็อาจจะพิจารณานำสินค้าในกลุ่มแชมพู และสบู่เข้ามาอยู่ในรายการสินค้าควบคุมก็เป็นได้