(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.26/27 คาดแกว่งในกรอบแคบ รอผลประชุม FOMC

วันนี้เงินบาทคาดว่าจะแกว่งในกรอบแคบ แต่มีโอกาสจะไปในทิศทางอ่อนค่าได้มากกว่า โดยตลาดยังรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ซึ่งจะทราบผลการประชุมในช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 พ.ค. โดยตลาดคาดว่าจะมีมติลดวงเงินการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ มาสู่ระดับ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์

"บาทมีโอกาสไปในทางอ่อนค่าได้มากกว่า เพราะผลประชุม FOMC น่าจะส่งผลดีต่อดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นได้ โดยตลาดคาดว่ารอบนี้ คงจะลด QE ลงด้วยปริมาณเท่าเดิมที่ ไม่น่าจะลดในปริมาณที่มากขึ้น และจากนั้นก็ wait and see" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ที่ 32.25-32.35 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากรอยังผลประชุม FOMC

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3050 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(29 เม.ย.) อยู่ที่ 1.86750% และ THAI BAHT FIX 6M(29 เม.ย.) อยู่ที่ 1.92998%

• ปัจจัยสำคัญ

• เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.65 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3810 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3868 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.2830 บาท/ดอลลาร์
• "ประสาร" หวังส่งออกปีนี้พลิกกลับเป็นบวกรับอานิสงส์คู่ค้าเศรษฐกิจฟื้น-ค่าบาทอ่อน แรงหนุนสร้างเสถียรภาพ คาดเห็นสัญญาณการฟื้นตัวไตรมาส 2 ขณะที่สศค. เผยจีดีพีไตรมาสแรกติดลบ 0.2% ผลพวงการเมือง ดัชนีชี้เศรษฐกิจชะลอตัวทุกด้าน กดดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคลดต่ำสุดรอบ 12 ปี ขณะ "ไทยพาณิชย์" หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 1.6% เหตุปัญหาการเมือง การลงทุนและบริโภคทรุดหนัก หวั่นกระทบการแข่งขันระยะยาว
• นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปัจจุบันประกอบกับการไม่มีรัฐบาล ทำให้เริ่มเห็นการชะลอตัวลงของสินเชื่อบางประเภทแล้วโดยสินเชื่อที่หดตัวลงค่อนข้างชัดเจนคือ สินเชื่อประเภทเช่าซื้อรถยนต์ ที่ข้อมูลล่าสุดในสิ้นไตรมาสแรกปีนี้พบว่า การขยายตัวลดลงเหลือ 2.5% จากเดิมที่เคยโตสูงถึง 38% สินเชื่อบ้านโตแค่ 12% ลดลงจากก่อนหน้านี้ และสินเชื่อส่วนบุคคลโตแค่ 7% จากสิ้นปี 2556 เคยโตถึง 20% มีผลให้สินเชื่อโดยรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 9.8% ลดลงจาก 11.34% ในไตรมาส 4 ปี 2556
• แบงก์ชาติ การันตี "แบงก์ไทย" ยังแข็งแกร่งโดยคุมคุณภาพหนี้ได้ดี-รับมือได้แม้เศรษฐกิจชะลอตัวนาน 2 ปี พร้อมกันสำรองสูง 157% แต่ยอมรับเอ็นพีแอลปรับเพิ่มขึ้นบ้าง ชี้สินเชื่อรวมยังขยายตัวได้ 9.8% ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ไม่น่ากังวล
• นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์การส่งออกไทยไตรมาส 2 และแนวโน้มทั้งปีพบว่า ผลจากความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลให้การส่งออกไม่สดใสเท่าที่ควร โดยหากการเมืองยังยืดเยื้อ ไม่มีรัฐบาลใหม่จนถึงไตรมาส 4 การส่งออกจะขยายตัวเพียง 0.25% ทำให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก 5.36 แสนล้านบาท
• นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เตรียมประกาศวันแตกหักขั้นตอนชุมนุมครั้งสุดท้าย ย้ำไม่เจรจา-ประนีประนอม
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเปิดฉากการประชุมกำหนดนโยบายที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29-30 เม.ย.
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 137.76 จุด เมื่อเวลา 09.40 น.ตามเวลาโตเกียว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) แถลงผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 20 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,990 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,298.66 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.17 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐและสหภาพยุโรปได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้สกัดแรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 101.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 108.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ทำเนียบขาวประกาศ

• รัสเซียได้ออกมาวิจารณ์อย่างรุนแรง กรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ตามหลังสหรัฐ โดยกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์ว่า หากอียูหวังว่าจะทำให้สถานการณ์ในยูเครนมีเสถียรภาพด้วยวิธีนี้ ก็จะนับเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศยูเครน และเป็นการยุยงโดยตรงให้กลุ่มนีโอนาซีในพื้นที่ดำเนินการตอบโต้และแก้แค้นพลเรือนอย่างผิดกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้รัสเซียยังประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรอย่างเจ็บแสบ