"ธนาคารฯ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรายย่อยจนถึงระดับเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ด้วยการลดเงินงวดผ่อนชำระเป็นเวลา 6 เดือน คาดว่าจะมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการนี้ประมาณ 76,000 ราย คิดเป็นหนี้ประมาณ 24,000 ล้านบาท และสามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ณ สาขาที่ลูกค้ามีบัญชีเงินกู้อยู่" นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว
รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารฯ ได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับกลุ่มลูกค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ จะต้องเป็นลูกค้ากลุ่มสินเชื่อรายย่อย และกลุ่มสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งที่เป็นลูกหนี้ปกติและลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ(ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน90 วัน) เช่น สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อธุรกิจห้องแถว สินเชื่อไทรทอง และสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 50 ล้านบาท เป็นต้น แต่ยกเว้นสินเชื่อกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
สำหรับยอดสินเชื่อคงเหลือทั้งหมด ณ วันที่ 31 มีนาคม มีจำนวน 2.94 ล้านราย เป็นเงินกว่า 1.69 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นลูกหนี้ปกติจำนวน 2.7 ล้านราย เป็นเงิน 1.62 ล้านล้านบาท เป็นลูกหนี้ในกลุ่มที่จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษจำนวน 125,233 ราย เป็นเงิน 44,763 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ต่ำกว่ามาตรฐาน จำนวน 121,488 ราย เป็นเงิน 25,931 ล้านบาท
"ธนาคารออมสิน หรือทุกสถาบันการเงินต่างไม่ต้องการให้คุณภาพสินเชื่อด้อยลง แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและปัจจับหลายด้านรุมเร้าลูกค้ามากมาย ถ้าธนาคารสามารถเชื่อเหลือได้ ก็ควรจะช่วยกันบรรเทาความเดือนร้อนให้กับลูกค้า เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตได้อย่างผ่อนคลายไม่ตึงเครียดมากนัก ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อลูกค้าและโดยภาพรวมของระบบเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย" นายธัชพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2557 ธนาคารออมสินได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มสินเชื่อหนี้ด้วยคุณภาพ(มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วันแต่ไม่เกิน 180 วัน) โดยยังไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินการตามกฎหมาย แต่ใช้วิธีการเชิญลูกหนี้มาเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตามความสามารถ โดยขยายเวลาผ่อนชำระหนี้หรือลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 14% ต่อปีให้เหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยปกติ และกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระได้ ธนาคารยังผ่อนผันให้ตั้งดอกเบี้ยค้างไว้ แล้วนำมาเฉลี่ยจ่ายเมื่อลูกหนี้สามารถผ่อนชำระเงินได้ ซึ่งทำให้สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ไปได้แล้วกว่า 10,600 ราย คิดเป็นมูลค่าหนี้กว่า 5,000 ล้านบาท