วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวค่อนข้างแคบ โดยอยู่ในกรอบ 32.35-32.40 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งในระหว่างที่มีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีสถานภาพของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในคดีที่สั่งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เงินบาทก็อ่อนค่าไปบ้าง แต่ยังไม่พ้นระดับ 32.40 บาท จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับมาเข้าอยู่ในกรอบเดิม
"มันเป็นการอ่อนค่าที่สวนกับสกุลเงินในภูมิภาค บาทจึงอ่อนไปได้ไม่มากนัก ขณะเดียวกันการตัดสินครั้งนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าปัจจุบัน ดังนั้นบาทจึงไม่ได้อ่อนค่าไปมาก" นักบริหารเงิน กล่าว
ส่วนวันพรุ่งนี้คาดว่าเงินบาทจะยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 32.30-32.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.55 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 101.56 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3920 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3930 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,402.61 ลดลง 1.40 จุด (-0.10%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 32,829 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,009.23 ลบ.(SET+MAI)
- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมสิ้นสุดลงเฉพาะตัว รวมทั้งความเป็นรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)สิ้นสุดลง เนื่องจากเป็นการกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ก้าวก่ายการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการประจำเอื้อพวกพ้อง ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งบุคคลทั้งหมดตามที่ระบุนั้นจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษวันนี้ มีมติให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง โดยดัชนี Stoxx Europe 600 อ่อนตัว 0.3% แตะ 334.89 เมื่อเวลา 08.18 น.ตามเวลาลอนดอน ภายหลังจากที่สหรัฐฯ ได้ออกมากดดันให้ยูเครนจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีตามกำหนดการณ์ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของรัสเซียที่ต้องการให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป
- ธนาคารกลางจีน ระบุในรายงานล่าสุด โดยให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินของธนาคารอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ โดยจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุม และปรับแก้ไขนโยบายให้สามารถรักษาเสถียรภาพการเติบโต กระตุ้นการปฏิรูป การปรับโครงสร้าง ส่งเสริมสวัสดิการของประชาชน และป้องกันความเสี่ยง
- สมาคมทองคำจีน เปิดเผยว่า จีนมีปริมาณการผลิตทองคำ 96.499 ตันในไตรมาสแรกของปี 2557 เพิ่มขึ้น 7.33% เทียบรายปี อัตราการใช้ทองคำของจีนในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.76% เทียบรายปี แตะ 322.99 ตัน ทั้งนี้ในไตรมาสแรก จีนมีอัตราการใช้ทองคำแท่งอยู่ที่ 67.95 ตัน ลดลง 43.56 เทียบรายปี ขณะที่อัตราการใช้เครื่องประดับทองคำเพิ่มขึ้น 30.2% เทียบรายปี แตะ 232.53 ตัน