นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.42/44 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.59/61 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.41-32.60 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้ค่าเงินในเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่า ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาไม่ค่อยดี ขณะที่การเมืองของไทยที่คนมองว่าใกล้จะจบแล้วหรือเปล่า มีการนัดหารือกันแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.86 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 102.19 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3719 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3705 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,396.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด, +1.52% มูลค่าการซื้อขาย 49,965.33 ล้านบาท
- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่อยู่ในแดนบวกตามดาวโจนส์ที่ทำ New High โดยตลาดบ้านเราเล็งรับแรงหนุนจาก Flow ไหลเข้าบางส่วน-เงินบาทแข็งค่า-คาดหวังการเมืองดีขึ้น อย่างไรก็ดีต้องรอผลศุกร์นี้หลังสว.พูดคุยกับองค์กรอิสระ-ภาคเอกชนแล้ว อีกทั้งรอดูพรุ่งนี้รัฐบาลจะคุยกับกกต.ในเรื่องการเลือกตั้ง ผลจะออกมาเป็นอย่างไร พรุ่งนี้ตลาดฯยังมีลุ้นขึ้นแต่ระหว่างทางอาจเจอแรงขายทำกำไร พร้อมให้แนวรับ 1,378 แนวต้าน 1,404 จุด
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 183.73 ลบ.(SET+MAI)
- สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนปี 57 ว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ดัชนี SET ณ สิ้นปี 57 ทรงตัวอยู่ที่ 1,473 จุด ใกล้เคียงคาดการณ์เดิมในช่วงต้นปีที่ 1,472 จุด โดยปัจจัยเสี่ยงหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และความเสี่ยงทางการเมืองในไตรมาส 2 ประกอบกับการปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้
- นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ระบุว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่สงบ จะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่ล้มหายตายจากไปทุกวัน พร้อมระบุว่า ขณะนี้กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกตัวติดลบหมด ทั้งการลงทุน การบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก ซึ่งเคยหวังว่าช่วง Q1/57 จะขยายตัว 4-5% แต่ถ้าหักการนำเข้าและส่งออกทองคำออกจะติดลบ
- ตลาดหุ้นเกิดใหม่ดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ทรงตัว ขณะที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับการรายงานผลประกอบการ
- ผลสำรวจจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวลงมาอยู่ที่ 33.1 จาก 43.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 5 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 41.0 ในเดือนพ.ค.
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปหรือยูโรสแตทเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.พ.
- ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกและการบริการด้านอาหารของสหรัฐ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งชะลอตัวลงอย่างหนักหลังปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้
- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ลงนามในข้อตกลงระดมทุนกับยูเครน เพื่อช่วยเหลือในช่วงการเปลี่ยนผ่านของยูเครน ข้อตกลงระดมทุนดังกล่าวมีมูลค่า 355 ล้านยูโร (486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงเงินทุนเพื่อส่งเสริมบทบาทของภาคประชาสังคมจำนวน 10 ล้านยูโร
- นายหลิว ซือหยู่ รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้เรียกร้องให้บรรดาธนาคารพาณิชย์จีน เร่งรัดกระบวนการอนุมัติและปล่อยกู้แก่กลุ่มผู้ซื้อบ้าน "ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม" โดยเน้นผู้ซื้อบ้านหลังแรกเป็นหลัก
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้ แต่ลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 65 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,050 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,305.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.04 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง