นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า จากข้อมูลชี้วัดของ ธปท.มีความเป็นไปได้สูงว่าไตรมาส 1/57 เทียบกับไตรมาส 4/56 อาจจะติดลบ ซึ่งขณะนี้รอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)อย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ซึ่ง ธปท.จะนำตัวเลขมาประกอบกับข้อมูลล่าสุดเพื่อประเมินแรงส่งที่มีต่อเศรษฐกิจในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 18 มิ.ย.นี้จะมีการปรับสมมติฐานภาคการคลัง เพื่อนำมาคำนวณประมาณการเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน
"ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยเป็นไปได้ว่า อาจจะถึงจุดต่ำสุดไปแล้ว ถ้าไม่เกิดเหตุ shock หรือ เหตุการณ์ที่มีความรุนแรงกว่าปัจจุบัน แต่คงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป" นางรุ่ง กล่าว
สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศกระทบต่อตลาดเงินบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนได้รับรู้ข้อมูลและสถานการณ์ไปบ้างแล้ว
"ค่าเงินบาทบางช่วงอาจอ่อนค่ากว่าสกุลอื่นในภูมิภาค แต่ยังคงเกาะกลุ่มกับทิศทางเดียวกับภูมิภาค"นางรุ่ง กล่าว
อย่างไรก็ตาม ภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ขณะนี้ไม่ได้มีเงินไหลออกชัดเจน โดยนักลงทุนยังมีทั้งการซื้อและการขาย ส่วนการออกไปกู้เงินต่างประเทศ ยอมรับว่ามีต้นทุนสูงขึ้น ขณะที่ดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินในประเทศที่ผ่านมาเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลงก่อนหน้านี้ ดังนั้นการออกพันธบัตรในประเทศจึงได้รับการลดภาระจากอัตราดอกเบี้ยด้วย