ทั้งนี้ อยากเรียกร้องรัฐบาลให้ชะลอการระบายสต็อกยาง 2 แสนตันเอาไว้ก่อน เนื่องจากขณะนี้ราคายางตกต่ำมากอยู่แล้ว หากระบายสต็อกยางออกมาอีกจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาราคายางมากกว่าช่วยแก้ปัญหา พร้อมเสนอแนะทางแก้ปัญหา ด้วยการกระตุ้นการใช้ยางในประเทศ เช่น การนำยางในสต็อกไปสร้าง หรือ ซ่อมแซมถนน
"ขอให้ชะลอการระบายสต็อกยางเอาไว้ก่อน ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม อยากเสนอให้นำยางในสต็อกมาใช้ซ่อมแซมถนน สะพาน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในภาคเหนือ เพราะยางมีคุณภาพ และไม่กระทบราคาตลาด"แหล่งข่าวกล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แหล่งข่าว กล่าวว่า ขณะนี้พ่อค้าส่วนใหญ่ยังไม่กล้าซื้อยาง เพราะเชื่อว่าราคาน่าจะลงต่ำกว่านี้ อีกทั้งบางรายก็กดราคาซื้อต่ำเพราะป้องกันการขาดทุน การระบายสต็อกยางช่วงนี้จึงไม่เหมาะสม เพราะจะยิ่งซ้ำเติมราคา เนื่องจากหากขายจะทำให้ขาดทุนสูงมาก
สำหรับสาเหตุที่ราคายางทรุดตัวลงหนักตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เกิดจากผู้ส่งออกไทยเร่งส่งออกในช่วงปลายปีที่รัฐบาลยกเว้นการเก็บเงิน Cess หรือเงินสงเคราะห์เป็นเวลา 4 เดือน ทำให้สต็อกที่จีนซื้อพุ่งขึ้นมามาก เมื่อรวมสต็อกของรัฐบาลไทย 2.2 แสนตัน จีน 2 แสนกว่าตัน สต็อกของผู้ส่งออกไทยและญี่ปุ่นรวมแล้วตกประมาณ 5 แสนตัน ใน 2 ปีข้างหน้านี้ จึงเป็นเรื่องยากที่ราคาจะปรับขึ้น แต่ราคาจะลงกว่านี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการจัดการของรัฐบาลไทย และความร่วมมือระหว่างประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ดังนั้นการมีรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อเข้ามาจัดการปัญหาต่างๆ น่าจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้บ้าง