นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์ส่งออกและมาตรการเร่งรัดผลักดันการส่งออกช่วงครึ่งหลังปี 57 ว่า มั่นใจว่าการส่งออกของไทยปีนี้ยังคงขยายตัวได้จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะในตลาดหลัก คือ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงอาเซียน ซึ่งจะทำให้การส่งออกช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในช่วงที่การเมืองยืดเยื้อ ส่วนทูตพาณิชย์ไทยที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่คงเป้าหมายการส่งออกไว้เหมือนเดิม และบางประเทศอาจขยายตัว แม้แต่ประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ อย่างจีน
ด้านนายไผท สุขสมหมาย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ปีนี้ตลาดญี่ปุ่นยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกทั้งปีไว้ที่ 2% แม้ผู้ซื้อญี่ปุ่นชะลอการสั่งซื้อสินค้าแล้ว เพราะกังวลปัญหาการเมืองจึงไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสั่งซื้อสินค้าในไทยได้ แต่หากการเมืองยืดเยื้อมีโอกาสที่การส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ทัน
ขณะที่นางเบ็ญจวรรณ อุกฤษ อัครราชทูตที่ปรึกษา(ฝ่ายพาณิชย์) ณ กรุงวอชิงตันดี.ซี. สหรัฐฯ กล่าวว่า นักธุรกิจสหรัฐฯกังวลการเมืองของไทย และอยากเห็นจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่ยังไม่กังวลมากจนถอนการลงทุน หรือชะลอคำสั่งซื้อ
ส่วนนางบุณิกา แจ่มใส ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล่าวว่า ผู้นำเข้าจีนกังวลการเมืองไทย แต่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว ทำให้ผู้ค้ามั่นใจมากขึ้น เพราะการผลิตและส่งออกสินค้าไม้ได้รับผลกระทบ เชื่อว่าการส่งออกของไทยไปจีน น่าจะขยายตัวเป็นบวกได้
และนายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า ยังคงยืนยันเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยไปยุโรปที่ 5% เพราะเศรษฐกิจยุโรปถึงจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
รายงานข่าว แจ้งว่า ตลาดกลุ่มประเทศประชาธิปไตยเป็นห่วงและเสียใจที่ไทยมีแนวโน้มที่รัฐบาลถาวรในอนาคตอาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งในทางพิธีการทูตจะได้รับผลกระทบแน่นอน แต่ในทางการค้าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะการค้าเป็นไปเพื่อสนองความต้องการของตลาด