วันนี้ช่วงเช้าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าไปจากเย็นวาน และพอช่วงบ่ายที่มีข่าวว่า ผบ.ทบ.นัดหารือกับคู่ขัดแย้งทางการเมืองเพื่อหาทางออกในการแก้วิกฤติให้ประเทศ เงินบาทก็เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ส่วนทิศทางวันพรุ่งนี้คงต้องติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศต่อว่าจะมีข้อสรุปอย่างไรจากที่ประชุมร่วมกับ ผบ.ทบ.ที่นัดหมายให้มาประชุมร่วมกันอีกครั้งวันพรุ่งนี้
นอกนั้นก็เป็นปัจจัยจากภายนอกที่ต้องติดตาม เช่น ประธานเฟดจะสรุปผลการประชุมในรอบที่แล้ว, ยอดค้าปลีกของอังกฤษ, รวมทั้งดัชนีภาคการผลิต(PMI)ของจีนในเดือนเม.ย. เป็นต้น
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.40-32.55 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.73 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 101.26 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3680 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3704 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,402.92 เพิ่มขึ้น 8.23 จุด (+0.59%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 34,120 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,064.52 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมระหว่าง ผบ.ทบ.กับคู่ขัดแย้งทางการเมืองทั้ง 7 กลุ่มถึงแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤติประเทศในวันนี้ ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ โดยผบ.ทบ.ให้การบ้าน 5 ข้อแก่คู่ขัดแย้งทางการเมืองทุกกลุ่มกลับไปวิเคราะห์และนำมาสรุปผลเพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาให้แก่ประเทศในวันพรุ่งนี้อีกครั้งเวลา 14.00 น.
- นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า หากยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกภายใน 3-4 เดือนก็อาจจะเกิดผลกระทบเศรษฐกิจในระยะยาวได้ เพราะจะทำให้ต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยว นักลงทุน นักธุรกิจต่างๆ ขาดเชื่อมั่นในประเทศไทย ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้
- กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้ประกาศขยายขอบเขตการเตือนภัยการเดินทางมายังประเทศไทยในทุกพื้นที่ ภายหลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กินเวลายาวนานถึง 6 เดือน นอกจากนี้ยังได้ประกาศเตือนภัยการเดินทางมายังจ.สุรินทร์ และศรีสะเกษที่อยู่ติดชายแดนกัมพูชา และยังคงประกาศจำกัดการเข้าพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขล ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนมาเลเซียด้วย
- รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ระบุว่าที่ประชุมได้โหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ต่อไป พร้อมกับคงขนาดโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ไว้ในการประชุมเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 28 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,988 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,298.45 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.03 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) แสดงความมั่นใจว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษของ BOJ ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจตามที่ตั้งใจแล้ว และให้คำมั่นอีกครั้งว่าจะเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ซึ่ง BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่อไปเพื่อจัดการปัญหาเงินฝืด และรักษามุมมองที่ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะยังคงฟื้นตัวในระดับปานกลาง โดยประเมินว่าอุปสงค์ที่อ่อนแอลงภายหลังการขึ้นภาษีการบริโภคในวันที่ 1 เม.ย.57จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว