ทั้งนี้ ในแผนแม่บทกระทรวงคมนาคม ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทนั้น วันนี้ได้รับข้อมูลเห็นว่าทุกโครงการยังจะต้องนำไปศึกษาก่อน รวมทั้งแนวทางการหาสภาพคล่องเข้ามาในโครงการด้วย โดยขอเวลาศึกษารายละเอียดประมาณ 2 สัปดาห์ และข้อสรุปการหารือวันนี้จะนำเสนอหัวหน้า คสช.ในสัปดาห์หน้า
"โครงการโครงสร้างพื้นฐานทุกโครงการ เราให้ความสำคัญ และต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหาและอุปสรรคที่มีอยู่พยายามแก้ไข ทั้งเทคโนโลยี ที่ดิน ได้แก่ โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 เพื่อรองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคน และโครงการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคน ทางคสช.จะพยายามขับเคลื่อนต่อไป" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
ส่วนที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งบประมาณในปี 57 และการจัดทำงบประมาณในปี 58 นั้น พล.อ.อ.ประจิน ยืนยันว่า งบประมาณในปี 57 จะสามารถทยอยใช้จ่ายได้ตามปกติ และจะสามารถนำเสนองบประมาณปี 58 ได้ทันภายในเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้การใช้ได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.57 เป็นต้นไป
สำหรับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายในส่วนของกระทรวงคมนาคมนั้น พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ได้ให้แนวทางไว้ 3 ข้อ คือ 1.โครงการที่เป็นความปลอดภัยของประชาชน, 2.โครงการที่มีความเป็นมาตรฐาน และ 3.โครงการที่สร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ทั้งนี้จากงบประมาณปี 57 ในส่วนที่จัดสรรให้กระทรวงคมนาคมนั้นอยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท ขณะที่ในปี 58 ทางกระทรวงคมนาคมได้เสนอไว้ที่ 3.88 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าในปี 57 ถึง 3 เท่า ดังนั้นคงต้องขอทบทวนดูก่อน เพราะเห็นว่าจากงบประมาณในปี 57 ก็ค่อนข้างจะมีความครอบคลุมเพียงพอแล้ว
กรณีการพิจารณาตัวบุคคลในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งนั้น รองหัวหน้าคณะ คสช.กล่าวว่า ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. คสช.จะเชิญหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ มาหารือร่วมกันที่สโมสรกองทัพบกด้วย ซึ่งจะมีการทบทวนเรื่องดังกล่าวด้วย