คสช.สั่งหาทางเดินหน้างบปี 57 ใน 2 สัปดาห์ หนุนรถไฟรางคู่ ทบทวนรถไฟความเร็วสูง-บริหารน้ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 2, 2014 16:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการประชุมการหัวหน้าส่วนราชการเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้หารือด้านต่างๆ และได้แจ้งความคืบหน้าการใช้จ่ายงบประมาณปี 57 ที่ยังค้างอยู่ โดยมอบหมายให้ฝ่ายเศรษฐกิจจัดทำรายงานสรุปแผนการใช้งบประมาณของปี 57 ที่ค้างอยู่จากอุปสรรคต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ก่อนจะนำมาเสนอที่ประชุมอีกครั้ง จากนั้นจึงจะเดินหน้าจัดทำงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 58 ต่อไป

นอกจากนี้ มีการรายงานแผนงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สซช.)ต่อที่ประชุม ซึ่งหัวหน้า คสช.ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข รวมทั้งให้มีการเข้าถึงทรัพยากรอย่างทั่วถึงเป็นธรรม และต้องส่งผลให้ดัชนีความสุขของประชาชนเพิ่มขึ้น

ด้าน พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า หัวหน้า คสช.เน้นย้ำว่าสังคมอยู่ร่วมกันด้วยการเคารพกฏหมาย และอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำทุกวิถีทางให้ดัชนีความสุขของคนไทยปรับค่าเฉลี่ยสูงขึ้น

"ท่านพูดในภาพรวม อยากให้ไปสำรวจดูว่า หลังวันที่ 22 พฤษภาคม คนไทยมีความสุขเพิ่มขึ้นมั้ย"พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับทราบผลการประชุมของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจเมื่อวานนี้แล้ว โดยในกรณีโครงการ 2 ล้านล้านบาทได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกลับไปพิจารณาว่าโครงการใดมีประโยชน์กับประชาชน โดยเน้นต้องมีกระบวนการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม และสามารถตรวจสอบได้ และต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ด้วย

พ.อ.ณัฐวัฒน์ ระบุว่า คสช.พร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งคาดว่าสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้ แต่คงต้องมีการศึกษาเส้นทางที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง ได้มอบหมายให้กลับไปศึกษารายละเอียด โดยเฉพาะจุดคุ้มทุน และการลงทุนจะต้องไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง หากจะเดินหน้าอาจเป็นการร่วมทุนกับเอกชน โดยใช้เงินลงทุนจากแหล่งเงินภายในประเทศเป็นหลัก

ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลชุดก่อน ก็ได้มอบหมายให้ไปศึกษาระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ และให้ป้องกันโครงการในลักษณะเบี้ยหัวแตกที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก โดยให้เน้นนำโครงการในพระราชดำริ เช่น โครงการแก้มลิง มาเป็นแนวทาง โดยให้กรมชลประทานเป็นเจ้าภาพในการศึกษาและทหารเป็นฝ่ายปฏิบัติ

สำหรับเรื่องราคาน้ำมัน หัวหน้าคสช. ให้นโยบายว่า ต้องเป็นไปตามกลไกตลาดในภาพรวม แต่จำเป็นต้องหามาตราการอื่นมาช่วยบรรเทาภาระของประชาชน เช่น กองทุนน้ำมัน และอยากให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทยที่อยากใชัน้ำมันราคาถูก พร้อมฝากให้คิดเรื่องพลังงานทดแทนด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ