ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน พ.ค.57 อยู่ที่ 2.62% YoY ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน และคงทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากต้นปี แม้สถานการณ์การใช้จ่ายภายในประเทศจะยังอยู่ในช่วงชะลอตัวก็ตาม ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดเล็กน้อย มาที่ระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนที่ 1.75% YoY โดยแรงหนุนมาจากทั้งฝั่งราคาอาหาร และพลังงาน
แม้ราคาพลังงานบางส่วนจะถูกตรึงไว้ที่ระดับเดิมตามแนวนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคจะทยอยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า จากผลของเงินบาทที่อ่อนค่า ภาวะผันผวนของราคาอาหาร รวมถึงทิศทางราคาพลังงานในตลาดโลกที่ยังคงเป็นตัวกำหนดราคาขายปลีกพลังงานในประเทศ
ขณะที่ทิศทางเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี 57 ยังมีโอกาสขยับขึ้น ทั้งนี้ การกำหนดให้ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนกลับไปอยู่ที่ระดับ ณ วันที่ 31 พ.ค.57 ที่ 22.63 บาทต่อกก. และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร อาจช่วยบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อไว้ได้บางส่วน เนื่องจากมองว่าแรงหนุนเงินเฟ้อยังอาจทยอยเกิดขึ้นมาจากปัจจัยในส่วนอื่นๆ อาทิ ราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซิน/แก๊สโซฮอล์ที่ยังขยับขึ้นตามต้นทุนตลาดโลก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่า) ขณะที่ กระบวนการส่งผ่านภาระต้นทุนของผู้ประกอบการมายังราคาสินค้าผู้บริโภคขั้นสุดท้าย ก็ยังน่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะในฝั่งผู้ผลิตเองก็เผชิญกับราคาต้นทุนสินค้าที่ต่างก็เดินหน้าปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 56 เป็นต้นมา