นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.47/48 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากเมื่อเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.41/43 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทวันนี้ปรับตัวอ่อนค่าจากเมื่อวาน หลังจากมีข่าวว่าอาจจะมีการเก็บภาษีจากการลงทุนในหุ้นระยะสั้นตั้งแต่ 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อดีข้อเสีย โดยจะมีข้อสรุปภายใน 3 เดือนนี้ ซึ่งถ้ามีการเก็บภาษีดังกล่าวจริง ก็คาดว่าจะมีเงินไหลทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยบ้าง
"ตลาดเล่นข่าวนี้กันเป็นหลัก เพราะกังวลว่าจะมีการเก็บภาษีจากการลงทุนในหุ้นระยะสั้น ซึ่งหากมีการเก็บจริงก็จะมีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้น ข่าวนี้ทำให้บาทดีดขึ้นมา ตอนนี้ข่าวนี้ค่อนข้างกระทบตลาดหุ้นพอสมควร"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.55 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.82 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 101.96/98 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3617 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3587/3588 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4480 บาท/ดอลลาร์
- ตลาดหลักทรัพย์ หวั่นเก็บภาษีขายหุ้นกระทบ ความเชื่อมั่น เตรียมชงบอร์ดตั้งคณะทำงานศึกษาเก็บภาษีใหม่ งดภาษีปันผลแต่เก็บภาษีผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 6 เดือน หวังลดการเก็งกำไรในตลาดหุ้น บลจ. มองการยกเลิกสิทธิภาษีแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟจะเป็นอุปสรรคในการสร้างสมดุลของนักลงทุนในตลาด โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันลดลงที่จะรักษาเสถียรภาพให้ตลาดทุน เชื่อไม่กระทบตลาดหุ้น เหตุเป็นการทยอยออก
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจง 6 หอการค้าต่างประเทศ เดินหน้าเศรษฐกิจไทยเตรียมอาเซียน ย้ำโรดแมพ 3 ระยะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จัดตั้ง "รัฐบาล-ปฏิรูป"เดือนต.ค. จัดเลือกตั้ง ใน 1 ปี ด้านหอการค้า 29 แห่ง ออกแถลงจุดยืนจันทร์นี้ เรียกร้องขจัดอุปสรรคการค้า-ทุจริต ขณะบีโอไอเผยอนุมัติโครงการค้างใน 2-3 เดือน เล็งประกาศสิทธิประโยชน์ใหม่
- นักวิเคราะห์ประเมินเฟดยุติ "คิวอี" ปลายไตรมาส 3 นี้ ระบุเงินทุนเคลื่อนย้ายปกติ เหตุมติ "เฟด" เป็นไปตามที่ตลาดเงิน คาดการณ์ ด้าน "ธปท." เผยเดือนมิ.ย. บาทแข็งค่าเล็กน้อย ระบุเศรษฐกิจปีนี้ ฟื้นตัวแบบ "วีเชฟ" โดยมองครึ่งปีหลัง ฟื้นเร็ว ผลเห็นชัดปีหน้า สะท้อนผ่านตัวเลขคาดการณ์โต 5%
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ที่คาดว่าปี 57 จะขยายตัวได้เพียง 1.5% จากเดิมที่ 2.7% ถือเป็นการประมาณการที่ต่ำเกินไปและขัดแย้งกับการคงดอกเบี้ยนโยบาย 2% เนื่องจากเชื่อว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ ธปท.กลับปรับลดจีดีพีทั้งปีลงอย่างมาก
- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับท่าทีเชิงผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการประชุมกำหนดนโยบายเสร็จสิ้นลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมและเฮลธ์แคร์ที่อ่อนตัวลง โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% สู่ระดับ 145.25 จุด เมื่อเวลา 9.32 น.ตามเวลาโตเกียว
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 310 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,180 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,319.24 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 33.57 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย. ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ในอิรักที่กำลังทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ โดยอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 106.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 115.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์รุนแรงในอิรัก โดยเว็บไซต์ CNN รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐวางแผนที่จะส่งกองกำลังชุดพิเศษเข้าไปประจำการในอิรัก ขณะที่ก่อนหน้านี้กลุ่มหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไบจิ จังหวัดซาลาฮูดินของอิรัก ซึ่งส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มโอเปค รองจากซาอุดิอาระเบีย