ปลัด พณ.สั่งทูตวอชิงตันเร่งชี้แจงทำความเข้าใจปมไทยถูกลดชั้นอยู่ Tier 3

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday June 21, 2014 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว่า หลังจากกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์(TIP Report) ที่ได้ปรับระดับให้ไทยไปอยู่ในระดับ 3(Tier 3) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ตนเองได้สั่งการให้สำนักพาณิชย์ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจต่อรัฐบาลสหรัฐฯ สภาคองเกรส บริษัทค้าปลีก และผู้นำเข้า โดยให้ชี้แจงข้อกล่าวหาในเรื่องแรงงานที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการค้า เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้ดำเนินการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจังและจริงใจมาโดยตลอด สำหรับในระยะเร่งด่วน กระทรวงฯ มีแผนดำเนินกิจกรรม รวมทั้งเดินสายไปพบปะผู้นำเข้ารายสำคัญในเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าไทย รวมทั้งผู้บริโภคในสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ไทยได้รับการยืนยันจากสมาคมผู้นำเข้าอาหารทะเลรายใหญ่ของสหรัฐฯ(NFI) ที่ได้ออกแถลงการณ์ว่า ยืนยันที่จะทำการค้ากับไทยในฐานะคู่ค้าที่ตั้งใจและปฏิบัติตามมาตรฐานในด้านแรงงานต่อไป เพราะการยกเลิกทำธุรกิจกับไทยถือเป็นผลเสียมากกว่า ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับไทย นอกจากนี้ NFI ยังระบุด้วยว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯไม่ควรเหมารวมว่าเกิดปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งอุตสาหกรรมกุ้งของไทย แต่ควรมองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่ง และเป็นความท้าทายของรัฐบาลไทยที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม NFI ยืนยันว่าจะไม่นำเข้าหรือทำธุรกิจกับโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานด้านแรงงาน

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ข้อกังวลกรณีที่สหรัฐฯอาจใช้เรื่องดังกล่าวเป็นข้ออ้างตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) ที่ให้กับสินค้าไทยนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะภายใต้กฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ(Trafficking Victims Protection Act 2000:TVPA) ไม่อนุญาตให้ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ เพิกถอนสิทธิประโยชน์และความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับด้านการค้า

สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป กระทรวงฯ จะนัดหารือกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันประเมินผลกระทบและกำหนดท่าทีในการดำเนินการ ก่อนที่จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนเร่งด่วน และนำเสนอให้สหรัฐฯ พิจารณาต่อไป เพราะภายใต้กฎหมายดังกล่าว สหรัฐฯ มีอำนาจที่จะเพิกถอนความช่วยเหลือที่ไม่ใช่ด้านมนุษยธรรม และที่ไม่ใช่ด้านการค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ