ฉะนั้น ต้องรอท่าทีของคู่ค้าก่อน หากมีความเข้าใจจะไม่ส่งผลต่อการทำธุรกิจของภาคเอกชน แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผลต่อการส่งออกของไทยในภาพรวมหรือไม่ เพราะยังต้องรอดูท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐด้วยว่าจะเห็นชอบการปรับลดอันดับของไทยหรือไม่ แต่เบื้องต้นยอมรับการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 4% และเศรษฐกิจทั้งปีก็อาจเติบโตเพียง 1.5%
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมของคณะมนตรี 28 ประเทศยุโรปที่จะพิจารณาเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศไทยภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การเมืองของไทยยังไม่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเท่าที่สากลจะยอมรับได้ แต่เชื่อว่าเมื่อโรดแมพของคสช.ดำเนินไปตามขั้นตอนสุดท้าย ประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่เป็นระดับสากลมากขึ้น ก็จะทำให้ต่างชาติจะเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวถึงวันครบรอบ 17 ปีการลอยตัวค่าเงินบาท 2 ก.ค.นี้ว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยผ่านสิ่งแวดล้อมที่มีความท้าทายทั้งภายในและภายนอกประเทศค่อนข้างมาก ทำให้เห็นว่าภาคเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ แต่ก็ยังต้องปรับตัวต่อไปเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านเศรษฐกิจในช่วงระยะกลางและยาวให้แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและพลังงาน รวมทั้งการพัฒนาแรงงาน เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกให้มากขึ้น
นอกจากนั้น ยังต้องส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการออม โดยเห็นด้วยที่สมาคมธนาคารไทยเตรียมนำข้อเสนอการจัดทำสถาบันการเงินชุมชน ให้ความรู้ประชาชนและมีมาตรฐานการป้องกันความเสี่ยง ด้วยการดึงกลุ่มสหกรณ์เข้ามาในเครดิตบูโร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันและนำข้อมูลของแต่ละหน่วยงานมาพัฒนาให้ดีขึ้น