"มันเป็นเหมือนโรคเรื้อรัง เราต้องรีบรักษาให้หายขาด" นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย อุตสาหกรรมประมง อาหารทะเลแช่แข็ง และกุ้งแช่แข็ง แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นคว่ำบาตรทางการค้า เพราะปกติผู้ค้าจากสหรัฐและยุโรปก็จะมีระบบตรวจสอบในเรื่องนี้เข้มแข็งอยู่แล้ว
"คงไม่รุนแรงถึงขั้นคว่ำบาตร เพราะในบ้านเราก็มีนักลงทุนจากสหรัฐและยุโรปเยอะเหมือนกัน เชื่อว่าผู้ค้ายังอยากซื้อสินค้าไทย เรื่องนี้เป็นการเตือนสติผู้ประกอบการไทยให้ระมัดระวัง" นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีประเทศที่ถูกจัดชั้นอยู่ใน Tier 3 แล้ว 21 ประเทศ และล่าสุดได้เพิ่มอีก 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย, เวเนซูเอล่า, แกมเบีย และไทย ซึ่งการดำเนินการของสหรัฐจะระงับความช่วยเหลือแต่ไม่ใช่ด้านการค้าและมนุษยธรรม เช่น อาจตัดความช่วยเหลือผ่านสถาบันระหว่างประเทศ แต่มีผลทางจิตวิทยาที่คู่แข่งจะนำไปขยายผลทางการค้าได้
สำหรับผลกระทบต่อภาคธุรกิจยังประเมินไม่ได้ คงต้องรอดูอีกสักระยะ แต่เราคงจะไม่รอเวลา ร่วมมือกับภาครัฐวางมาตรการจัดระเบียบแรงงานให้ชัดเจนไปเลย
วันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.เพื่อพิจารณากำหนดท่าทีและชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ซึ่ง ส.อ.ท.ได้ตั้งนายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธาน ส.อ.ท.ด้านแรงงาน เป็นประธานคณะทำงานที่จะไปประสานกับหน่วยงานภาครัฐ ขณะเดียวกันในส่วนของ ส.อ.ท.จะได้ชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริงไปยังสมาชิกเข้าใจเพื่อจะได้ไปชี้แจงกับผู้ค้าอีกทอดหนึ่ง
ทั้งนี้ ส.อ.ท.มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการใช้แรงงานผิดกฎหมาย, สนับสนุนการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวอย๋างเป็นรูปธรรม, ชี้แจงคู่ค้าในต่างประเทศให้เกิดความเข้าใจในข้อเท็จจริง และจัดตั้งคณะทำงานเพื่อให้ข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ "เอกชนพร้อมดำเนินการทันทีในส่วนของการชี้แจงผู้ค้า ส่วนความร่วมมือกับภาครัฐนั้นคงต้องรอรวบรวมข้อมูลอีกสัก 1-2 สัปดาห์" นายสุพันธุ์ กล่าว