โครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 วงเงิน 6,600 ล้านบาท โดยคสช.ได้อนุมัติงบประมาณแล้วจำนวน 6,159 ล้านบาทนั้น กรมส่งเสริมการเกษตรได้ประสาน ธกส.ให้เตรียมการโอนเงินก้อนดังกล่าวให้แก่เกษตรกรที่ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติถูกต้องตามเงื่อนไขของโครงการฯ ได้ทันที ส่วนวงเงินอีก 440 ล้านบาท ที่จะจ่ายให้แก่เกษตรกรที่อยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิ์การถือครองที่ดินที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค.นี้ ก็จะมีการเสนอ คสช.อีกครั้ง
ขณะที่โครงการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปี 57/58 ก็จะมีการชี้แจงทำความเข้าใจถึงกระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มีกว่า 3.7 ล้านครัวเรือน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2555-57 ที่ คสช.ได้อนุมัติงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 5,498 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้เกษตรกรจำนวน 584,005 ราย ใน 68 จังหวัด ซึ่งคาดว่าจะโอนเงินให้เกษตรกรได้แล้วเสร็จภายใน 30 วันหลังจากที่สำนักงบประมาณโอนเงินให้กับ ธ.ก.ส.
นอกจากนี้ การสัมมนาดังกล่าวจะมีการเสวนาเรื่อง การดำเนินงานมาตรการลดต้นทุนการผลิต โดยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมการปกครอง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) และกรมการข้าว นอกจากนี้ยังมีการชี้แจงและตอบข้อซักถามเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้ผู้เข้าสัมมนามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ สามารถนำไปขับเคลื่อนงานได้อย่างฉับไว และไม่มีปัญหาในการดำเนินงาน เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งหมู่บ้านในศูนย์ข้าวชุมชนที่เกษตรกรสนใจและมีความเหมาะสม ส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านลดต้นทุนการผลิตข้าว ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วจำนวน 85 หมู่บ้าน ใน 17 จังหวัดๆ ละ 5 หมู่บ้าน ได้แก่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นครนายก สุพรรณบุรี เพชรบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร และนครพนม และมีการจัดเวทีชุมชนระหว่างเกษตรกรร่วมกับนักวิชาการเกษตร เพื่อวิเคราะห์พื้นที่และเลือกชุดเทคโนโลยีการผลิตข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่ จัดทำแปลงเรียนรู้ จานวน 153 ไร่ จัดทำแปลงส่งเสริมการลดต้นทุน จำนวน 2,400 ไร่ จัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน 32 กลุ่ม จัดตั้งกลุ่มผลิตสารชีวภาพและบริหารศัตรูข้าว จำนวน 18 กลุ่ม