นายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ ผู้ว่าการ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(
กฟผ.) ยอมรับเป็นห่วงกรณีการหยุดซ่อมบำรุงแหล่ง
ก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย
มาเลเซีย(JDA-A18) ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.-10 ก.ค.นี้ อาจเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(
พีค) อีกครั้ง เนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์นี้จะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าใน
ภาคใต้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ช่วงนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าใน
ภาคใต้ยังอยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้คือ ประมาณ 2,700 เมกะวัตต์ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศด้วย โดยขณะนี้
กฟผ.ส่งไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปประมาณ 700 เมกะวัตต์ จึงยังต้องขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลา 18.30- 22.30 น.ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การใช้ไฟฟ้าในภาคใต้กลับไปสูงขึ้นในช่วงเวลากลางวัน อาจทำให้ กฟผ.ต้องใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นจากแผน ซึ่งตามแผนคาดว่าในช่วง 28 มิ.ย.นี้ จะใช้น้ำมันเตาประมาณ 39 ล้านลิตร น้ำมันดีเซล 9 ล้านลิตร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเชื่อนไซยะบุรีในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบพัฒนารูปแบบใหม่ เพราะเป็นโครงการที่ประเทศในอาเซียนให้ความสนใจและเป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่ง กฟผ.ก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่า โครงการนี้น่าจะเดินไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือจะผลิตไฟฟ้าจ่ายเข้าระบบได้ในปี 2562 โดยเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ เพราะการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำนั้นมีต้นทุนถูกว่าเชื้อเพลิงประเภทอื่น
อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--