"ครึ่งปีหลังเราจับกลุ่มคอนเท้นท์ซีรีย์เกาหลี ซึ่งมีผู้ชมที่มากกว่า 1 ล้านคน และหนังฝรั่งที่มีรายได้มากกว่าหนังไทย เราได้ตั้งงบลงทุนคอนเทนท์ไว้ทั้งปีกว่า 1,000 ล้านบาท น่าจะเพียงพอในการซื้อคอนเทนท์มานำเสนอ มีสัดส่วนคอนเท้นที่ผลิตเอง 70% และคอนเท้นท์ที่ซื้อมา 30%ขณะที่เราก็ทำไปพร้อมกับการสร้างแบรนด์ การเพิ่มฐานผู้ชม และการสร้างพันธมิตร"นายเขมทัตต์ กล่าว
ในครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเดินหน้าในการพัฒนาคุณภาพรายการและขยายฐานผู้ชม ภายใต้คอนเซ็ปต์ Home of the Best Series & Variety Shows โดยมองว่าซีรี่ย์เกาหลีและญี่ปุ่นมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมากในอนาคต ซึ่ง PPTV มีเรทติ้งซีรีย์ติดลำดับที่ 11 จากช่องที่มีการถ่ายทอดซีรี่ย์เกาหลีและญี่ปุ่นทั้งหมด
นายเขมทัตต์ กล่าวว่า การปรับผังรายการเฟส 2 ในช่วงเดือนก.ค.นี้จะนำซีรี่ย์เกาหลีและญี่ปุ่นมานำเสนอ เช่น รักวุ่นวายกับคุณชายนายก, ภาระกิจรักฉบับกระเป๋า, บ้านป่วนก๊วนไฮโซ, หน่วยแพทย์ติดปีก รวมถึงซีรีย์จากสหรัฐ เช่น เจาะเรื่องฉาวทำเนียบขาว, สวยสังหาร, สายลับสมองกล ประกอบกับคอนเทนท์ที่เป็นกีฬา ซึ่งบริษัทฯจะมีการประกาศเปิดตัวพันธมิตรในช่วง 3 เดือนนี้
ขณะที่การปรับผังรายการเฟส 3 ที่จะเกิดขึ้นในปี 58 สถานีจะมีการนำเสนอรายการบันเทิงเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เกมโชว์ หรือเรียวลิตี้โชว์ คาดว่าผังรายการน่าจะครอบคลุม 90% ได้ และด้วยการที่สถานีฐานหลักมีการขยายสัญญาณอย่างต่อเนื่อง คาดว่า ณ สิ้นปี 57 จะครอบคลุม 50 จังหวัด หรือเข้าถึงผู้ชมราว 10 ล้านครัวเรือน ส่งผลให้บริษัทฯมี eyeball เพิ่มขึ้นอีกมาก
อย่างไรก็ตาม นายเขมทัต กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ชะลอโครงการแจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลออกไปก่อน แต่หากโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติให้เดินหน้าต่อก็จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นอุตสาหกรรมทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณ ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล และการลงทุนซอฟท์แวร์ ซึ่งก็น่าจะทำให้ภาพรวมปรับตัวขึ้นมาเป็นบวกได้เล็กน้อย
"ยอมรับว่าได้รับผลกระทบพอสมควร และคาดว่าจะต้องมีการปรับเป้าหมายรายได้ลงจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้กว่า 700 ล้านบาท และน่าจะไม่ถึง 500 ล้านบาท โดยส่งผลต่อบริษัทฯในแง่ของตัวเรทติ้งที่ไม่เพิ่มขึ้น เราต้องเสียค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้นทั้งค่าจ้างบุคคลากร และค่าดอกเบี้ยที่ไปกู้แบงค์มา ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลทั้งปีน่าจะติดลบ 2-3% แต่ถ้าตัวคูปองสามารถออกมาได้ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ก็เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมให้เดินหน้าไปได้ จากที่มียังการชะลอตัว และถ้าหากได้คูปองที่เข้ามาสนับสนุนกล่องทีวีดาวเทียมด้วยจะส่งผลดีมาก"นายเขมทัตต์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯได้มีการออกอากาศในระบบ HD อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 7 เม.ย.57 ซึ่งหลังจากมีการออกอากาศไปบริษัทถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ มีกลุ่มผู้ชมรู้จักสถานีโทรทัศน์ PPTV และติดตามรายการอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าถึงผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไป ประมาณ 20% ของฐานผู้ชมทั่วประเทศ