"บัณฑูร"แนะกระตุ้นศก.เท่าที่จำเป็น จี้เร่งปฎิรูปเพื่อความแข็งแกร่งในระยะยาว

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 24, 2014 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ระบุว่า ประเด็นเศรษฐกิจควรกระตุ้นเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะประเทศมีกำลังจำกัด ถ้ามากเกินไปก็อาจนำไปสู่โลกแบบเดิมๆ ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการการกระตุ้นแต่เราต้องการการปฏิรูปเพื่อให้ความแข็งแกร่งอยู่ได้ในระยะยาวและดีขึ้นเรื่อยๆ

นายบัณฑูร ยังกล่าวถึงการเติบโตของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 6-8% ภายใต้สมมติฐานที่ GDP จะขยายตัวประมาณ 2% โดยที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อไม่ได้มีปัญหา ยกเว้นเพียงภาคการท่องเที่ยว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการถูกกีดกันทางการค้า ไม่ว่าจะมาจาการถูกดาวน์เกรดจากปัญหาค้ามนุษย์ หรือการแทรกแซงทางการเมืองจากความไม่เห็นด้วยกับระบบการบริหารประเทศไทย แต่มองว่าจะเป็นเพียงปัญหาระยะสั้นเท่านั้น เพราะถ้าตราบใดที่เราเดินหน้าประเทศไปในทางที่ทำให้ประเทศดีขึ้นในระยะยาว ในที่สุดแล้วความเชื่อมั่นจะกลับมาและการค้าก็น่าจะดีขึ้น

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การปฏิรูปการเลือกตั้งที่ทำให้ได้มาซึ่งการชิงอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย การคัดสรรคนดีที่จะมีอำนาจขึ้นมาบริหารประเทศ เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในที่สุดแล้วการบริหารประเทศแบบคสช.ก็ต้องสิ้นสุดลง

พร้อมระบุว่า อำนาจของภาครัฐเหมือนอำนาจส่วนตัว คนรับใช้ส่วนตัว แล้วแบบนี้จะมีคนดีๆ ที่ไหนมาคอยรับใช้ การที่คสช.เข้ามาบริหารประเทศอย่างน้อยก็ทำให้เรื่องที่ทะเลาะกันจนล้นถนนสงบลง และทุกคนมีสติที่จะมาดูแลประเทศ แน่นอนทำให้ภาคเอกชนดีใจ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการปฏิรูปโครงสร้างประเทศจะทำได้มากน้อยเพียงใด เพราะเวลาค่อนข้างมีจำกัด

"ปัญหาตอนนี้คือไม่มีใครคานอำนาจภาครัฐ ทำให้เมื่อได้อำนาจมาก็ยิ่งมีอำนาจยิ่งๆ ขึ้นไป ก็หวังว่าคสช.จะทำอะไรทิ้งไว้ เพื่อเป็นการตรวจสอบผู้บริหารประเทศรุ่นหลังบ้าง สิ่งที่ภาคเอกชนและประชาชนทำได้คืออย่าสุภาพกับภาครัฐมากเกินไป ทั้งขณะเผชิญหน้ากับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ต้องพยายามถาม เพื่อให้เขาหาเหตุผลสมควร หรือเหตุไม่สมควรมาตอบเราให้ได้ อย่าหงอ เพราะหากปล่อยให้การทำงานเป็นไปในลักษณะเดิมๆ การเลือกตั้งแบบเดิมๆ ก็ไม่ต่างกับการเอาเท้าลูบหน้าประชาชน" นายบัณฑูร กล่าว

ปัจจุบันภาคเอกชนไม่ได้มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล เพราะที่ผ่านมาสามารถทำได้ดีอยู่แล้ว เนื่องจากมีกระบวนการการแข่งขันทำให้เกิดการเปรียบเทียบ ดังนั้นโดยรวมจึงสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาครัฐเพราะไม่มีใครสามารถคานอำนาจได้ แม้แต่ฝ่ายค้าน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ตอบคำถามผู้ถือหุ้นต่อหน้าสื่อมวลชนที่เป็นตัวแทนจากภาคประชาชน เพราะธนาคารรับเงินฝากมาจากประชาชนจึงมีหน้าที่ต้องตอบคำถาม ต้องรับผิดชอบ และนั่นถือเป็นความถูกต้องในการทำงาน ขณะที่ภาครัฐอ้างอย่างเดียวว่าการได้มาซึ่งอำนาจ มาจากการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย แต่กลับทำในสิ่งตรงข้ามคือไม่มีการตอบคำถามแก่ประชาชนซึ่งเป็นผู้ให้อำนาจ เช่น ใช้งบประมาณไปเท่าไร เสียหายอย่างไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ