อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ในฐานะที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินและการบัญชีของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ดำเนินการสั่งจ่ายเงินกองทุนฯ เข้าบัญชีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 50.93 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อผลไม้และค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อนำไปแปรรูป จำนวน 2.80 ล้านบาท และอีกจำนวน 48.13 ล้านบาท จะจ่ายขาดเพื่อสนับสนุนเงินชดเชยค่าขนส่งและบริหารจัดการผลผลิตในการกระจายผลผลิตสู่ตลาดตลาดปลายทางนอกแหล่งผลิต วงเงิน 39.75 ล้านบาท เป็นเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 3 ต่อปี ที่กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. เป็นเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายผลไม้ วงเงิน 6.54 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการแปรรูปมังคุดและเงาะเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต วงเงิน 0.45 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการติดตามและบริหารจัดการโครงการ วงเงิน 1.39 ล้านบาท
"เงินดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรสามารถมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการจำหน่ายผลผลิตได้ตลอดฤดูกาลรวมถึงสามารถแปรรูปสินค้าไว้จำหน่ายได้ตลอดไม่เกิดการสูญเสีย" นายมนัส กล่าว