นายณรงค์ชัย กล่าวในการสัมมนา MFC Finance Forum ครั้งที่ 16 เรื่อง “เศรษฐกิจและการลงทุนไทย ในยุคการปรองดอง"ว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกคาดว่าจะติดลบประมาณ 0.5% แต่ะจะกลับมาขยายตัวได้ถึง 3% ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งปีนี้มีอัตราการขยายตัวราว 1.5% แต่อย่างไรก็ตาม การขยายตัวเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังคงจะไม่มากอย่างที่คาดหวังกัน เพราะมองว่านโยบายต่างๆ ของคสช.คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะเห็นผล ดังนั้น คงจะไปส่งผลทำให้เศรษฐกิจในปี 58 มีการเติบโตค่อนข้างมาก
หลังจากนี้ ยังควรต้องติดตามแผนโรดแมปในขั้นตอนต่าง ๆ ของ คสช. โดยเฉพาะการปลดล็อคการลงทุนผ่านการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) รวมถึงการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันระดับหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงถึง 80% รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่ คสช.ยังต้องมีการตรวจสอบในแต่ละโครงการก่อน หากไม่มีความโปร่งใสอาจต้องตัดบางโครงการออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 58 เป็นอย่างมาก
ส่วนกรณีที่เกิดความกังวลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งฝั่งสหรัฐและยุโรปนั้น นายณรงค์ชัย มองว่า ประเทศอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่คงไม่มาก ดังนั้น คสช.จะต้องเร่งแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นภาพลบในสายตาต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานเด็ก
ขณะที่ปัญหาความสัมพันธ์กับฝั่งยุโรปนั้น ระยะสั้นอาจทำให้ประเทศไทยเสียหน้า เพราะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการปกครอง แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับภาพรวมของการส่งออก เนื่องจากการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับไทยมีเพียง 9% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ดังนั้น หาก คสช.มีแผนโรดแมปที่ชัดเจนทั้งการนำประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตย รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และปัญหาแรงงาน ก็เชื่อว่า ความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาชาติก็จะกลับมาเช่นเดิม
ทั้งนี้ นายณรงค์ชัย คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตได้ราว 2%