พร้อมมองว่า นอกจากการเข้ามาบริหารประเทศโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 จะเป็นกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองของไทยแล้ว ยังมีนัยต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีด้วยเช่นกัน เนื่องจากคสช.เร่งผลักดันแนวทางแก้โจทย์เฉพาะหน้าทางเศรษฐกิจ และวางรูปแบบการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ (Roadmap) เพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ ผลบวกต่อเศรษฐกิจจากมาตรการของภาครัฐ อาทิ การเร่งอนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกร และมาตรการดูแลค่าครองชีพ น่าจะเริ่มทยอยส่งผ่านมาที่ทิศทางการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ขณะที่ความยืดหยุ่นของภาครัฐในการผลักดันเม็ดเงินงบประมาณ ทั้งในส่วนของรายจ่ายประจำและรายจ่ายด้านการลงทุน ก็น่าจะทำให้มีแรงกระตุ้นเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้นเช่นกัน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังประเมินภาพรวมอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ไว้ที่กรอบร้อยละ 1.8-2.6 (ค่ากลางกรณีพื้นฐานที่ร้อยละ 2.3) โดยจะติดตามรายละเอียดของมาตรการเศรษฐกิจของคสช.ที่น่าจะเริ่มทยอยมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ต้องยอมรับว่า ภาคการส่งออกที่ยังคงมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ค่อนข้างล่าช้า ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจมีผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะที่เหลือของปีด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในเดือนพ.ค.57 ทั้งด้านการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐ และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำว่า เศรษฐกิจไทยกำลังวกกลับขึ้นจากจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/2557 ขณะที่การส่งออกยังเป็นภาคส่วนที่การฟื้นตัวค่อนข้างล่าช้า