เงินบาทเปิด 32.38/40 แข็งค่า รับตัวเลขเศรษฐกิจตปท.ออกมาดี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 2, 2014 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.45/46 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้คาดว่าทิศทางยังนิ่งๆ หลังจากที่ได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นมา ซึ่งทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้เป็นเพราะตัวเลขดัชนีภาคการผลิตจีน (PMI) ประจำเดือน มิ.ย.57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน นับเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของจีนปรับตัวเข้าสู่การเติบโตที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับยอดขายบ้านรอปิดการขายของสหรัฐ เดือนมิ.ย.ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

"บาทที่แข็งค่า เพราะตัวเลข PMI ของจีนออกมาค่อนข้างดี ประกอบกับตัวเลขบ้านของสหรัฐฯ ก็ออกมาดี ทำให้ดาวน์โจนส์ไปแตะ new high ตอนนี้เลยเป็น sentiment บวกหมด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.36-32.45 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.61 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3676 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4480 บาท/ดอลลาร์
  • สมาคมแบงก์เผยเงินกองทุนขั้นที่ 2 ทั้งระบบมีแนวโน้มปรับลดลงจากยอดหุ้นกู้ทั้งระบบแบงก์ที่จะครบดีลใน 1-2 ปีนี้รวมกว่า 3 แสนล้านบาท กระทบความสามารถในการให้สินเชื่อปีละ 1 ล้านล้านบาท เร่งหารือ ธปท. และ ก.ล.ต. หวังปลดล็อกเกณฑ์การออกหุ้นเพื่อนับเป็นเงินกองทุนเพื่อขาย รายย่อย ระบุต้องเคลียร์ให้ได้ก่อนเศรษฐกิจฟื้นความต้องการสินเชื่อเพิ่ม
  • แบงก์ชาติยืนยันฐานะการเงินธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่ง ไม่ซ้ำรอยวิกฤติ "ต้มยำกุ้ง" ชี้มาตรฐาน บัญชีต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะการนับ "เอ็นพีแอล" ด้าน "นายแบงก์" มั่นใจ ห่างไกลคำว่าวิกฤติ ยอมรับห่วงหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น พร้อมแนะคุมกติกาการแข่งขัน หวั่นแข่งแรงนำไปสู่วิกฤติได้
  • ธปท.เผยสกุลเงินหยวนมีบทบาทเวทีโลกมากขึ้น แต่จะให้ติดตลาดทำหน้าที่เป็นสกุลเงินนานาชาติที่สมบูรณ์ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายปัจจัย ส่วนไทยพยายามสนับสนุนให้ภาคธุรกิจหันใช้หยวนเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงอัตราเปลี่ยนและลดผลกระทบจากความผันผวนของเงินสกุลหลัก
  • ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ชี้เศรษฐกิจ 2 เดือนแรกไตรมาส 2 ดีขึ้น ตอกย้ำทิศทางฟื้นตัวชัดเจนขึ้น จากหลายภาคส่วนทั้งการบริโภค-ลงทุนเอกชน และการเบิกจ่ายของภายรัฐ แต่ส่งออกยังฟื้นตัวช้า คาดครึ่งปีหลังขยายตัวได้ 3.3-4.7%
  • ไตรมาสแรกหนี้ครัวเรือนยังขยายตัว 10% ยอดทะลุ 9.8 ล้านล้านบาท ธปท. สำรวจพบหนี้บัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อบุคคลยังเติบโตสูง ส่วนโรงรับจำนำยอดลดลงกว่า 20% ด้านเครดิตบูโรเกาะติดบัญชีเริ่มค้างชำระ จับตาสินเชื่อบุคคล-สินเชื่อเช่าซื้อ
  • ดอลลาร์สหรัฐมีเสถียรภาพเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) โดยปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเงินเยน อันเนื่องมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่สดใสจากสหรัฐ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ นักลงทุนต่างก็จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนมิ.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้
  • รมว.คลังสหรัฐ เรียกร้องให้จีนปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีก และสหรัฐจะยังคงเดินหน้าผลักดันจีนให้เปิดตลาดรับนักลงทุนสหรัฐมากขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันประเด็นเงินหยวนขึ้นเจรจากับจีนในระหว่างการประชุมทวิภาคี Strategic and Economic Dialogue (S&ED) ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ในระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.นี้
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเวลา 9.55 น.ตามเวลาโตเกียว ทั้งนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐ
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 105.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 112.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนและสหรัฐ ที่ขยายตัวแข็งแกร่ง

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในอิรักและยูเครนยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้สัญญาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.35% 1,326.6 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สถานการณ์รุนแรงในอิรักและยูเครน ยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยกองทัพยูเครนได้กลับมาใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อปราบกลุ่มกบฎในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศแล้วในวันนี้ ภายหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 10 วันได้สิ้นสุดลง ซึ่งการประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครน ได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายระยะเวลาของข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในประเทศ

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ