(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิดตลาดที่ 32.40/42 เคลื่อนไหวตามภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 4, 2014 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.40/42 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.39/41 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคหลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
"อ่อนค่าเล็กน้อยตามภูมิภาคหลังตัวเลข Non Farm Payroll ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์" นักบริหารเงิน กล่าว

ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หรือ Non Farm Payroll ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้จะดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินในเอเชียเพียงเล็กน้อย โดยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3817 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(3 ก.ค.) อยู่ที่ 1.90106% และ THAI BAHT FIX 6M(3 ก.ค.) อยู่ที่ 1.90067%

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.12 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ที่ระดับ 101.94 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3605 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3652 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3960 บาท/ดอลลาร์
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 20 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,220 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,323.57 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 2.17 ดอลลาร์สหรัฐ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยยอดส่งออก พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 1.955 แสนล้านดอลลาร์ จาก 1.935 แสนล้านในเดือน เม.ย.โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายยานยนต์ สินค้าผู้บริโภค สินค้าอุตสาหกรรม และอาหาร ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ เช่นเดียวกับการส่งออกภาคบริการ ส่วนยอดนำเข้าปรับตัวลดลง 0.7 พันล้านดอลลาร์จากเดือนก่อนหน้าแตะระดับ 2.398 แสนล้านดอลลาร์ หลังยอดนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าผู้บริโภค และอาหารได้ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าสำหรับสินค้าและบริการประจำเดือน พ.ค.ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 4.44 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 2.6 พันล้านดอลลาร์ จากระดับของเดือน เม.ย.ที่ 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน มิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 215,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี จากเดือน พ.ค.ที่ระดับ 6.3% สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเวลา 10.04 น.ตามเวลาโตเกียว, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,490.37 จุด เพิ่มขึ้น 142.08 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,609.32 จุด เพิ่มขึ้น 77.88 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,525.93 จุด ลดลง 0.30 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,018.35 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,282.23 จุด เพิ่มขึ้น 9.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,889.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดาวโจนส์ปิดที่เหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,068.26 จุด เพิ่มขึ้น 92.02 จุด หรือ +0.54%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,485.93 จุด เพิ่มขึ้น 28.20 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,985.44 จุด เพิ่มขึ้น 10.82 จุด หรือ +0.55%
  • ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 10 สัปดาห์ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.9% ปิดที่ 348.91 จุด, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,029.43 จุด เพิ่มขึ้น 118.16 จุด หรือ +1.19%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,489.88 จุด เพิ่มขึ้น 45.16 จุด หรือ +1.02%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,865.21 จุด เพิ่มขึ้น 48.84 จุด หรือ +0.72%
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้น โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ร่วงลง 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,320.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 16.5 เซนต์ ปิดที่ 21.137 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันจากลิเบียอาจจะเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลกมากขึ้น หลังจากมีรายงานว่าท่าขนส่งน้ำมัน 2 แห่งของลิเบียสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ลดลง 42 เซนต์ ปิดที่ 104.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 111 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือน มิ.ย. โดยค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3656 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.7152 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.7163 ดอลลาร์ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.20 เยน จากระดับ 101.83 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8934 ฟรังค์ จากระดับ 0.8891 ฟรังค์ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9350 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9437 ดอลลาร์สหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ