"ต้องพิจารณาหลายด้าน และต้องหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะกรณีนี้จะส่งผลต่อความมั่นคงไฟฟ้าของประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้จะต้องกลับไปพิจารณารายละเอียดต่างๆอย่างรอบคอบก่อน"นายอารีพงศ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการปิดซ่อมแหล่งเจดีเอ ขณะนี้แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนและสามารถส่งก๊าซได้ตามปกติแล้ว จากเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 10 ก.ค.ซึ่งในช่วงที่ปิดซ่อม ทาง บมจ.ปตท.(PTT)ได้สำรองน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเพื่อทดแทนปริมาณก๊าซที่หายไปจากระบบ โดยใช้ปริมาณน้ำมันเตา ราว 38.5 ล้านล้านลิตร น้อยกว่าแผนที่คาดไว้ที่ 39 ล้านลิตร และใช้น้ำมันดีเซล 9.8 ล้านลิตร ต่ำกว่าแผนที่กำหนดไว้ 9 ล้านลิตร ซึ่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นถูกรวมไว้ในค่าเอฟทีงวดนี้ 1.76 สตางค์/หน่วย
นอกจากนี้ ยังมีการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซีย 20 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่า 140 ล้านบาท หรือกระทบค่าเอฟที 0.25 สตางค์/หน่วย ขณะที่การใช้โครงการ demand response ใช้เงิน 7.6 ล้านบาท กระทบต่อค่าเอฟที 0.01 สตางค์/หน่วย ส่วนจะนำไปคำนวณในค่าเอฟทีงวดถัดไปหรือไม่และเท่าใดนั้น ยังต้องประเมินตัวเลขความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกครั้ง