สำหรับแผนหลังจากที่สามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้แล้ว ทางกลุ่มวังขนายก็ได้มีการศึกษาถึงแผนการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในขณะเดียวกันหากจะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จริงๆนั้น จะต้องมีการติดตามถึงภาวะตลาดด้วย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านทั้งตลาดหุ้นในประเทศไทย และตลาดหุ้นไลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก
"ตามกฎเกณฑ์แล้วปัจจุบันเรายังไม่สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ เพราะเรายังอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการอยู่ ซึ่งเราคาดว่าอีก 2-3 ปีเราก็คงจะออกจากแผนฟื้นฟูได้ ซึ่งหลังจากที่ออกจากแผนฟื้นฟูแล้ว เราก็จะมีการศึกษาอีกครั้งหนึ่งถึงความเหมาะสมและความจำเป็น"
น.ส.ธัญรักษ์ กล่าวต่อว่า ธุรกิจของวังขนายแตกต่างจากบริษัทผลิตน้ำตาลอื่นๆ ในอุตสาหกรรมที่เข้ามาในฐานะของนายทุนมากกว่า แต่ของเราเริ่มจากศูนย์ และเป็นการรวมตัวของเกษตรกรเพื่อก่อตั้งมาเป็นกลุ่มวังขนาย ดังนั้น การที่จะขยายหรือการลงทุนต่างๆ เราจึงต้องเป็นห่วงคนข้างหลังมากกว่าที่จะมีการเติบโตแบบเร็วๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มวังขนายมีกำลังการผลิตน้ำตาลอยู่อยู่ราว 7 แสนตัน/ปี และมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชัยนาท โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิตสูงสุดราว 1.7-2 หมื่นตันอ้อย/ปี คาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนดังกล่าวในช่วงปลายปีก่อนถึงฤดูกาลหีบอ้อย
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทางกลุ่มวังขนายมีการผลิตน้ำตาลออร์แกนิคได้เพียง 2-3 พันตัน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9 พัน-1หมื่นตัน ซึ่งจะเป็นสัดส่วนยอดขาย 10% ของยอดขายในปีนี้ ซึ่งทางกลุ่มวังขนายตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายน้ำตาลออร์แกนิคให้เป็นสัดส่วน 50% ในอีก 10 ปีข้างหน้า