ค่าดัชนีปรับตัวสูงขึ้นกว่าระดับ 50 จุดอีกครั้งสะท้อนมุมมองในเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศระหว่างเดือน โดยความเห็นต่อราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความวิตกต่อภาวะการสู้รบในอิรักที่อาจจะส่งผลต่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น หนุนความต้องการสินทรัพย์ ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ และความผันผวน ด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ และค่าเงินบาทยังมีน้ำหนักต่อทองคำ ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง 37% เชื่อว่าจะซื้อทองคำช่วง 1 เดือนข้างหน้า
"ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนนี้เราจะเห็นว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาทองคำในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 10.61 จุด หรือ 23.31% ขึ้นมาสู่ระดับ 56.14 จุด เป็นการสะท้อนชัดเจนว่ามุมมองของกลุ่มตัวอย่างทั้งกลุ่มผู้ค้าและผู้ผลิตกลับมามีสัญญาณในเชิงบวก ประกอบกับกลุ่มผู้ลงทุนที่รับข่าวในเรื่องของความรุนแรงในตะวันออกลาง"นายกมลธัญ กล่าว
ปัจจัยที่ต้องติดตามจากนี้ คือ ความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นสถานการณ์ในประเทศอิรัก ยูเครนและอิสราเอลที่มีการสู้รบ ซึ่งจะมีผลต่อการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่ปัจจัยลบจะเป็นเรื่องของค่าเงินบาท คาดว่าค่าเงินบาทจะปรับตัวแข็งค่าได้ต่อ เนื่องจากแนวโน้มกรฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะช่วยสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน และเริ่มเห็นสัญญาณของนักลงทุนต่างชาคิที่มีเงินไหลกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่จะทยอยปรับลดขนาด QE หรือการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตเพื่อชะลอความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเหมือนการลด QE ซึ่งคาดว่าจะมีการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายไตรมาส 2/58 ถึงต้นไตรมาส 3/8
ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำระหว่างเดือนจะไม่ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากยังมีปัจจัยต้นทุนหน้าเหมืองเข้ามาผลักดันอยู่
"ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับตลาดทองคำ คือเรื่องในอิรักและความรุนแรงในตะวันออกกลาง ตรงนี้เชื่อว่าอาจจะมีผลกระทบในเชิงบบวกต่อราคาทองคำ เพราะว่าประเทศในตะวันออกกลางเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมัน เวลามีผลกระทบเกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้ มักมีผลกรทบต่อราคาน้ำมัน ทำให้ตัวราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่ความเสี่ยงในภาวะสงครามก็ส่งผลให้การลงทุนในหุ้นปรับลดลงและความต้องการทองคำตลาดโลกจะดีขึ้น"นายกมลธัญ กล่าว
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยทองคำ มองกรอบดัชนีความเชื่อมั่นทองคำเดือนก.ค.57 เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,280-1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่ออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศจะอยู่ระหว่าง 19,000-21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีปัจจัยความเสี่ยงทั้งต่างประเทศและค่าเงินบาท จึงทำให้ลักษณะของกรอบประจำเดือนนี้อยู่ในกรอบค่อนข้างกว้างพอสมควร ซึ่งคาดว่ามุมมองราคาทองคำจะอยู่ในเชิงบวก และน่าจะขึ้นทดสอบในระดับ 21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำได้
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ดัชนีโดยรวมอยู่ที่ 63.81 จุด เพิ่มขึ้นจากการจัดทำเดือนมิถุนายน ทำให้เชื่อว่ากลุ่มตัวอย่างยังคงมีมุมมองระยะกลางต่อราคาทองคำในเชิงบวก โดยมองปัจจัยสนับสนุนประเด็นใกล้เคียงกันคือความเสี่ยงในอิรัก ทิศทางเงินดอลลาร์และค่าเงินบาท
สำหรับการลงทุนระหว่างเดือนมองว่าแม้อัพไซด์ยังมีอยู่ในกรอบจำกัดจากแรงกดดันของทิศทางค่าเงินบาท และทิศทางการปรับเปลี่ยนนโยบายของเฟด จึงแนะนำการลงทุนในระยะสั้น หากราคาทองคำปรับขึ้นมาในระดับที่พอมีกำไรก็อาจจะแนะนำให้ขายทำกำไรก่อนและรอจังหวะที่ราคาทองอ่อนตัวลงเพื่อเข้าสะสมซื้ออีกคร้ง
อย่างไรก็ตาม กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำในตลาดโลกในช่วงครึ่งปีหลังนี้มองว่าจะอยู่ระหว่าง 1,200-1,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศจะอยู่ระหว่าง 18,000-21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และค่าเงินบาทจะปรับตัวแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 31.08-32.00 บาทต่อดอลลาร์
ด้านนายทรรศนะ บุญขวัญ ประธานคณะทำงานศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง พบว่า ผู้ค้ามีความเห็นแตกต่างกันในมุมมองที่มีต่อราคาทองคำระหว่างเดือนกรกฎาคม โดยมีผู้ค้า 5 ราย มองทองคำเพิ่มขึ้น 4 ราย มองราคาทองหดตัวระหว่างเดือนและอีก 2 รายมองใกล้เคียงเดือนมิถุนายน
มองว่าราคาทองคำในตลาดโลกกรอบราคาทองคำสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,320-1,360 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ที่ 1,280-1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 20,800 -21,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 19,600-19,800 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ