โดยจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 7 ส.ค.57 ตั้งแต่ 08.30-11.00 น. และเปิดซองวันเดียวกันเวลา 13.00 น. ซึ่งจะสามารถทราบผลได้ในวันเดียวกัน และจะนำเสนอผลการประมูลให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์รับทราบก่อนเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) อนุมัติต่อไป
"กรมฯ ได้ชี้แจงเงื่อนไขการประมูลให้กับผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลข้าว ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล สหกรณ์ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการประมูลให้มีความโปร่งใสมากขึ้น โดยจะมีการกำหนดราคาขั้นต่ำ ใครเสนอสูงกว่าจะชนะการประมูลไป มีการรับประกันคุณภาพข้าว ให้ยื่นและเปิดซองในวันเดียวกัน ให้เสนอซื้อครั้งเดียวแบบไม่มีการเจรจาต่อรองราคา จากเดิมที่จะมีการเจรจาต่อรองราคากับผู้เสนอซื้อ สามารถซื้อแยกกองได้จากเดิมต้องซื้อยกคลัง และจะแสดงผลการประมูลผ่านจอแสดงผลทันที ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในการเข้าร่วมประมูลมากขึ้น" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุ
พร้อมยืนยันว่า การเปิดประมูลข้าวในครั้งนี้จะไม่กระทบกับราคาข้าวในตลาด เพราะปัจจุบันผลผลิตข้าวนาปี ฤดูการผลิตปี 57/58 ยังออกสู่ตลาดน้อย ที่สำคัญเป็นการระบายข้าวในปริมาณที่ไม่มากนัก ขณะที่ความต้องการของผู้ส่งออกมีมากกว่า จึงเชื่อว่าน่าจะขายข้าวได้ในราคาดี
นางดวงพร กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาขายข้าวให้กับคอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนว่า ล่าสุดจีนยืนยันจะซื้อข้าวจากไทยในปริมาณ 1 ล้านตันตามกรอบสัญญาเดิมที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามร่วมกันไปแล้วตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา และแจ้งว่าภายในเดือนส.ค.-ก.ย.57 มีความต้องการซื้อข้าวเพิ่มเติมอีก 200,000 ตัน แบ่งเป็นปลายข้าวปริมาณ 100,000 ตัน และข้าวขาว 5% อีก 100,000 ตัน ซึ่งเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ โดยคอฟโกจะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาไทยเพื่อเจรจาในรายละเอียดในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะขายข้าวให้กับประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย คาดว่าภายใน 3 ปี จะระบายข้าวในสต๊อกได้หมด 18 ล้านตัน