"ในส่วนของเบี้ยเลี้ยง และค่าครองชีพต่างๆ จะมีการทบทวนอัตราให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่าเบี้ยเลี้ยงและค่าครองชีพต่างๆ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้วหรือยัง" ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
พร้อมระบุว่า หลังจากนี้กรมบัญชีกลาง, สำนักงบประมาณ, สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) และฝ่ายเศรษฐกิจของ คสช. จะต้องมาหารือร่วมกันอีกครั้งว่าจะเริ่มปรับขึ้นบัญชีเงินเดือนข้าราชการได้เมื่อใด แต่เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มได้ราวเม.ย.58 ซึ่งเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มได้ภายใน ต.ค.57 เนื่องจากมีกระบวนการหลายขั้นตอนที่ต้องพิจารณา
สำหรับวงเงินที่คาดว่าต้องใช้ในการดำเนินการหากมีการปรับขึ้นเงินเดือนในเดือนเม.ย.58 ในอัตรา 8% นั้นจะอยู่ที่ราว 20,000 ล้านบาท (เม.ย.58-ต.ค.58) ส่วนตัวเลขที่แน่นอนยังต้องพิจารณากันอีกครั้ง เพราะต้องขึ้นอยู่กับว่าอัตราที่ปรับเพิ่มจะเป็นเท่าใด ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งอาจจะโยกงบหรือจัดสรรงบประมาณปี 58
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียวว่า ขณะนี้ได้นำเสนออัตราจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียวให้ คสช.พิจารณาแล้ว ซึ่งเป็นอัตราตามบัญชีการจัดเก็บที่กรมสรรพสามิตกำหนดไว้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับนโยบายของ คสช.ว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร โดยเบื้องต้นคาดว่าต้องมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การหารือของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อพิจารณาเรื่องความพร้อมและความเหมาะสมด้วย