"เรามองว่าปีนี้ปริมาณการนำเข้าทองคำจะอยู่ที่เพียง 100-130 ตันเท่านั้น ส่วนหนึ่งมาจากการราคาที่นิ่งทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในทองคำน้อยลง และจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวไป ทำให้คนไม่มีกำลังที่จะมาซื้อทอง รวมไปถึงบางกลุ่มที่ยังติดดอยอยู่ จึงไม่มีการมาซื้อทองคำเพิ่ม"นายจิตติ กล่าว
สำหรับการปรับขึ้นมาของราคาทองคำในวันนี้นั้น นายจิตติ กล่าวว่า มาจากปัจจัยหลัก 2 ปัจจัยคือ เงินบาทอ่อนค่าและยังมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ความกังวลสถานการณ์ในยูเครนที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ในปีนี้มองราคาทองคำในกรอบ 1,170-1,400 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งปัจจุบันราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน จึงแนะนำว่าให้หาจังหวะซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ขณะเดียวกันแนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำในราคาสูงให้หาจังหวะขายออกหากราคาขึ้นไปถึงบาททองคำละ 21,000 บาท เนื่องจากในระยะยาวหากเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงไปถึง 15,100 บาทในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า