ซุปเปอร์บอร์ดมีมติให้ 4 รสก.ประเมินทรัพย์สิน-หนี้สิน รายงานกลับใน 3 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 14, 2014 18:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ 3 ชุด ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขรัฐวิสาหกิจ ที่มีพล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบกเป็นประธาน ได้รายงานผลการพิจารณาแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง คือ บมจ.ทีโอที, บมจ.กสท โทรคมนาคม, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank)

เบื้องต้นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ เห็นว่าการพิจารณาแผนแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจทั้ง 4 แห่ง ต้องมีแผนข้อมูลของแต่ละองค์ โดยเฉพาะข้อมูลทรัพย์สิน หนี้สิน และข้อพิพาทของรัฐวิสาหกิจ โดย คนร.จึงมีมติให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 4 แห่งไปดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะองค์กร ประเมินทรัพย์สินและหนี้สินขององค์กรตามเป็นจริง และรายงานกลับมาภายใน 3 เดือนโดยมอบหมายให้ ทาง สคร.ประสานกับรัฐวิสาหกิจในการปรับปรุงแผนก่อนที่จะเสนอให้ คนร.พิจารณาต่อไป

2. คณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ มีนายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานอนุกรรมการฯ ได้รายงานความคืบหน้าจัดทำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจทั้ง 56 แห่งว่า จะมีการกำหนดบทบาทรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งให้เชื่อมโยงการพัฒนาประเทศในแต่ละด้านได้ภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามบทบาทในระยะยาวต่อคนร. รวมถึงจะมีการนำเสนอโครงสร้างการกำกับนโยบายของรัฐวิสาหกิจต่อไป

และ 3.คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบกำกับดูแลและระบบบรรษัทภิบาลของรัฐวิสาหกิจ มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เป็นประธาน ได้รายงานมาตรการเร่งด่วน เช่น การปฎิรูปกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจ, การสร้างความโปร่งใส, การลงทุนรัฐวิสาหกิจ และแนวทางการแต่งตั้งกรรมการ, ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น ภายในเดือนต.ค.-พ.ย.57 และมาตรการปฎิรูประยะยาว จะมีการกำหนดรูปแบบการกำกับรัฐวิสาหกิจภาพรวมซึ่งจะทำเป็นโรดแมพการพัฒนาระบบธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจภายใน 1 ปี

นอกจากนี้ ที่ประชุม คนร.ได้พิจารณาแผนและแนวทางการแก้ไขปัญหาองค์กรของรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ บมจ.ทีโอที, บมจ.กสท โทรคมนาคม, SME Bank และธนาคารอิสลามฯ แล้วมีมติให้รัฐวิสาหกิจไปดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะองค์กรและประเมินทรัพย์สินและหนี้สินขององค์กรว่ามีครบถ้วนและมีอยู่จริง ก่อนการพิจารณาแผนการแก้ไขปัญหาอีกครั้ง รวมทั้งมอบหมายให้ สคร.ประสานกับคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจในการปรับปรุงแผนต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุม คนร.เมื่อวันที่ 9 ก.ค.57 กำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาในการดำเนินการตามภารกิจจัดส่งแผนการแก้ไขปัญหามาให้ คนร.พิจารณา ซึ่งในเบื้องต้นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ที่มี พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก เป็นประธาน เห็นว่า การพิจารณาแผนแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจทั้ง 4 แห่ง มีความจำเป็นต้องมีความชัดเจนถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ของข้อมูลทรัพย์สินและข้อพิพาททางกฎหมายของรัฐวิสาหกิจก่อน

ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาของขสมก.นั้น ตามที่ขสมก.มีแผนจัดซื้อรถโดยสารใหม่จำนวนมากเพื่อทดแทนรถเดิม ประกอบกับประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง คนร.จึงมีมติให้ ขสมก.จัดทำแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาภายใน 15 วัน เพื่อนำเสนอ คนร.พิจารณาต่อไป

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) กล่าวด้วยว่า หัวหน้า คสช.ได้มอบหมายให้ สคร.ไปพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินบริจาคของรัฐวิสาหกิจในด้านสาธารณะประโยชน์ โดยต้องการให้กำหนดเป็นหลักเกณฑ์และมาตรฐานการบริจาคเดียวกัน เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้เงินบริจาคในด้านนี้เป็นจำนวนมาก โดยให้ สคร.ไปจัดทำหลักเกณฑ์ก่อนเสนอให้ คนร.ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ