“ปริมาณอ้อยที่เข้าหีบจริงในฤดูการผลิตปี 2556/2557 รวมทั้งประเทศมีปริมาณทั้งสิ้น 103.67 ล้านตัน คิดเป็นวงเงินกู้อัตราตันอ้อยละ 160 บาท รวมทั้งสิ้น 16,586.52 ล้านบาท ซึ่งกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และ ธ.ก.ส. ได้มีการลงนามสัญญากู้เงินร่วมกันเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 และได้เริ่มโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยงวดแรกเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 จนถึงขณะนี้ (15 สิงหาคม 2557) ได้มีการโอนเงินช่วยเหลือไปแล้ว 5 งวด จำนวน 138,527 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,271.18 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98 ของวงเงินกู้ทั้งหมด ยังเหลือเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2557 จะจ่ายได้ครบ 100%
ทั้งนี้ เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะทำให้ชาวไร่อ้อยมีทุนหมุนเวียนในการปลูกและบำรุงรักษาอ้อยที่จะส่งเข้าหีบในฤดูการผลิตต่อไป และจะเป็นการใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้อีกทางหนึ่งด้วย" นายวิฑูรย์กล่าว
ด้านนายอาทิตย์ วุฒิคะโร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือชาวไร่อ้อยโดย คสช. ในครั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งชาวไร่อ้อยโดยตรงในแง่ของการสร้างหลักประกันในอาชีพที่ควรจะต้องมีความมั่นคง ซึ่งเงินช่วยเหลือที่กองทุนจ่ายในครั้งนี้ เป็นการจ่ายในช่วงฤดูฝนที่ฝนตกมาซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมมาก ชาวไร่อ้อยก็จะมีเงินทุนในการซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และเป็นค่าแรงคนงานในการบำรุงอ้อยในปีหน้า