พาณิชย์เตือนผู้ส่งออกขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าในธ.ค.57ก่อนตัด GSP

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 21, 2014 15:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า สหภาพยุโรปได้ให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (Generalized System of Preferences GSP) แก่ประเทศกำลังพัฒนา ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และดินแดนในเขตปกครองต่างๆ รวมทั้งสิ้น 176 ประเทศ ตั้งแต่ปี 2514 โดยเป็นการให้สิทธิพิเศษฝ่ายเดียวและประเทศผู้ให้สิทธิฯ จะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ และอัตราภาษีเองทั้งหมด ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับสิทธิพิเศษฯ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.56 สหภาพยุโรปได้ออกระเบียบ Commission Implementing Regulation (EU) No. 1421/2012 ระบุว่าตั้งวันที่ 1 ม.ค.58 ประเทศไทยจะไม่อยู่ในรายชื่อประเทศผู้รับสิทธิ GSP สหภาพยุโรปอีกต่อไป ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่จะส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปและตุรกีไม่สามารถขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form A) ได้ทุกรายการ (เนื่องจากตุรกีใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาให้หรือระงับสิทธิฯ เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป) การถูกตัดสิทธิฯ ดังกล่าวสาเหตุมาจากประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Upper Middle Income เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันตามข้อมูลของธนาคารโลก

รายงานข่าวระบุว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการของไทยยังคงสามารถใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้กรอบ GSP สหภาพยุโรปในช่วงก่อนการถูกระงับสิทธิฯ ผู้ส่งออกจะต้องยื่นขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า(Form A) พร้อมเอกสารสำคัญอื่นๆ ที่ใช้ประกอบการผ่านพิธีการศุลกากรภายในวันที่ 31 ธ.ค.57 เท่านั้น รวมทั้งศุลกากรจะต้องตรวจปล่อยสินค้าดังกล่าวภายในวันที่ 31 ธ.ค.57 สินค้านั้นจึงจะได้รับสิทธิ GSP ทั้งนี้ หากมีการยื่นเอกสารเพื่อผ่านพิธีการศุลกากรก่อนวันที่ 31 ธ.ค.57 แต่ศุลกากรไม่ได้ตรวจปล่อยสินค้าได้ทันภายในวันที่ 31 ธ.ค.57 สินค้านั้นก็จะไม่สามารถใช้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้กรอบ GSP ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ