สำหรับรถยนต์ที่จะประมูลในลำดับที่ 1 ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อ BENTLEY รุ่น CONTINENTA GT 6000 ซีซี สีดำ ปี 2005 เกียร์ AUTO เปิดประมูลด้วยราคา 2,260,000บาท และรถยนต์ที่มีราคาประมูลสูงสุด ได้แก่ ลำดับที่ 39 รถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI รุ่น AVENTADOR 6500 ซีซี สีดำ ปี 2012 เปิดประมูลด้วยราคา 19,400,000 บาท ส่วนรถยนต์ที่มีราคาเปิดประมูลต่ำสุดมีจำนวน 1 คัน ได้แก่ ลำดับที่ 77 รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น HILUX เปิดประมูลด้วยราคา 29,000 บาท
ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้มอบหมายให้ บมจ.สหการประมูล(AUCT) เป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดรถยนต์ของกลาง ซึ่งจะเปิดให้ผู้ที่สนใจชมสภาพภายนอกรถยนต์ของกลางที่จะขายทอดตลาดได้ตั้งแต่วันที่ 28 - 29 สิงหาคม 2557 ในเวลา 09.00 - 18.00 น. ณ บริเวณลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง กรมศุลกากร คลองเตย โดยผู้ประสงค์เข้าร่วมประมูลจะต้องลงทะเบียนและวางเงินค้ำปะกันการประมูล เป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งจ่ายกรมศุลกากร(พักรายได้) ได้ที่เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนส่วนของกลาง กรมศุลกากร ในวันที่ 28 - 29 สิงหาคม 2557 เวลา 08.30 - 16.30 น. และในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2557 ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประมูล ตามจำนวนรถยนต์ที่ต้องการประมูล โดยไม่ต้องระบุว่าเป็นคันใด
โดยรถยนต์ที่ราคาเปิดประมูลต่ำกว่า 1,500,000 บาท ให้วางเงินค้ำประกันการประมูลคันละ 100,000 บาท และรถยนต์ที่ราคาเปิดประมูลตั้งแต่ 1,500,000 บาทขึ้นไป ให้วางเงินค้ำประกันการประมูลคันละ 200,000 บาท และมีสิทธิประมูลรถยนต์ที่ราคาเปิดประมูลต่ำกว่า 1,500,000 บาทได้ โดยคาดว่าจะนำรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
อนึ่ง สำหรับการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางในครั้งที่ผ่านมา (3 ก.ค.) กรมศุลกากรสามารถประมูลขายรถยนต์ของกลางได้ทั้งสิ้น 355 คัน นำรายได้เข้ารัฐมูลค่ากว่า 607,420,000 ล้านบาท