ช่วงแรกของการเสวนา ผู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ที่มาจากเครือข่ายภาคประชาชนต่างแสดงความคิดเห็นพุ่งตรงไปที่การโจมตี บมจ.ปตท.(PTT) โดยเฉพาะประเด็นท่อก๊าซ ทั้งการใช้ประโยชน์ การถือครองสิทธิในท่อก๊าซส่วนที่นอกเหนือจากคำพิพากษาของศาลปกครอง เช่น ท่อก๊าซในทะเล การกำหนดราคาขายน้ำมันและก๊าซในประเทศ การขายก๊าซให้ภาคอุตสาหกรรมในราคาต่ำ รวมถึงการถือครองหุ้น ปตท.ของคณะกรรมการและผู้บริหาร
ทั้งนี้ ตัวแทนของฝ่าย ปตท.นำโดยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะกรรมการ, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารหลายส่วนผลัดกันตอบคำถาม โดยบรรยากาศในการซักถามค่อนข้างตึงเครียด
ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนสอบถามถึงข้อสังเกตของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกรณีที่ ปตท.ส่งมอบท่อก๊าซให้รัฐไม่ครบ จากที่ต้องส่งคืนคิดเป็นมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท แต่ ปตท.กลับคืนคิดเป็นมูลค่าเพียง 1.6 หมื่นล้านบาท โดยอ้างคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ม.ค.51 ซึ่งผู้บริหาร ปตท.พยายามชี้แจงว่าคำสั่งศาลปกครองถือเป็นที่สุด เพราะศาลให้คืนสมบัติเฉพาะกรณีที่ใช้อำนาจมหาชนรอนสิทธิ์ในที่ดินเท่านั้น และที่ผ่านมาศาลปกครองได้ส่งบันทึกไปยัง สตง.แล้ว ซึ่ง สตง.ในฐานะผู้ตรวจสอบบัญชีของ ปตท.ก็ไม่เคยท้วงติงใดๆ
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า หลังจากการเสวนาในวันนี้ได้ให้ทั้ง 2 ฝ่ายที่ขัดแย้งกันนำข้อมูลเอกสารมายืนยัน โดยเฉพาะกรณีท่อส่งก๊าซฯ ซึ่งภาคประชาชนยังมีข้อข้องใจว่า ปตท.ทำตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดได้ครบหรือไม่ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีการคืนท่อส่งก๊าซในทะเล แต่ทางฝ่าย ปตท.เองก็ยืนยันว่าได้ทำตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงให้นำข้อมูลเอกสาร เพื่อรวบรวมแล้วเสนอ คสช.ภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าต่อไป
สำหรับการเสวนาในวันนี้เบื้องต้นเชื่อว่าทุกฝ่ายจะได้ข้อยุติในการถกเถียงเรื่องพลังงานฟอสซิลแล้ว โดยเตรียมจัดเสวนาเรื่องพลังงานทางเลือกต่อไปในอีก 1-2 เดือน เนื่องจากยังมีข้อถกเถียงด้านพลังงานทดแทน และต้องการให้ได้ข้อยุติต่อไป