"นับจากครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป กำลังก้าวสู่การเตรียมพร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจของภาคธุรกิจเอสเอ็มอี บรรยากาศทางการเมือง เศรษฐกิจและการค้าแสดงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความมั่นใจของผู้บริโภคเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ ความร่วมมือในโครงการ “ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรม ปี 2557-2559” ระหว่างธนาคารและ ส.อ.ท. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกให้แก่เครือข่ายสมาชิกของส.อ.ท. ที่มีอยู่มากกว่า 8,000 ราย ใน 12 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม" นางกรรณิการ กล่าว
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า โครงการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ปี 2557 – 2559 ถือได้ว่าเป็นโครงการสนับสนุนด้านวิชาการและบริการทางการเงินครบวงจรให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ มีขีดความสามารถในการผลิตและการแข่งขันทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติเพิ่มมากขึ้นและเป็นไปอย่างยั่งยืน อีกทั้งเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวพร้อมรับมือกับสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบันได้
ปัจจุบันสภาอุตสาหกรรมฯ มีจำนวนสมาชิกกว่าร้อยละ 85 ที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs โดยปัจจุบัน สภาอุตสาหกรรมฯ ได้มีการเดินหน้าผลักดันข้อเสนอต่างๆ เพื่อการพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทย ให้เกิดความยั่งยืน โดยได้ให้ความสำคัญและดำเนินการดูแล ผลักดันเพื่อการพัฒนา SMEs 5 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ปรับปรุงกลไกการส่งเสริม SMEs 2.ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา SMEs 3.ส่งเสริมให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน 4.พัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์และเพิ่มผลิตภาพของธุรกิจ และ 5.สร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ SMEs
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ ในการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรม ปี 2557 – 2559 นี้นั้น ทางสภาอุตสาหกรรมฯ จะขยายขอบเขตการทำงานร่วมกันกับธนาคารไทยพาณิชย์ให้ครอบคลุม และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนผู้ประกอบการในรายอุตสาหกรรม (Sector base) ผู้ประกอบการในรายพื้นที่ (Area base) กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และภาพรวมของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเชิงวิชาการ ที่สภาอุตสาหกรรมฯ พร้อมให้ความร่วมมือในการสนับสนุนด้านอุตสาหกรรม กับศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อประกอบการวิเคราะห์ภาวะอุตสาหกรรม ในมิติต่างๆ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเชิงวิชาการให้กับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ นำไปปรับปรุงการดำเนินกิจการให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยหวังว่าความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กรในครั้งนี้จะยังคงเป็นกลไกสำคัญหนึ่งที่จะช่วยนำพา SMEs ไทย เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนได้" นายสุพันธุ์ กล่าว