อย่างไรก็ดี มองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3 เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ในช่วงนี้กำลังจะมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ จากที่เศรษฐกิจไทยต้องอยู่ในภาวะที่อ่อนแอมาตลอดในช่วงครึ่งปีแรก
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า กกร.มองว่าการลงทุนภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ จะเป็นโจทย์หลักด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ที่ต้องเร่งดำเนินการผลักดันให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจปี 58 เติบโตได้เต็มศักยภาพต่อไป โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีโอกาสขยายตัวได้ในระดับ 4.0-4.5%
สำหรับปัจจัยสำคัญที่มองว่ารัฐบาลชุดใหม่จะต้องเร่งขับเคลื่อนก่อนเป็นลำดับแรกๆ คือ การขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังต้องมีการแก้ไขกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อทำให้การประกอบธุรกิจมีความสะดวกคล่องตัว ช่วยส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และการปล่อยให้กลไกตลาดสามารถแข่งขันได้อย่างเสรี
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) มองว่า ในอดีตที่ผ่านมาภาคการเมืองและส่วนราชการจะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดบทบาททิศทางการลงทุน ตลอดจนการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้นจึงต้องการฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ว่า ขอให้ภาคเอกชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดบทบาทและทิศทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ของประเทศมากขึ้น
"ที่ผ่านมายอมรับว่า คสช.ก็เปิดโอกาสให้เอกชนมากขึ้น และหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันกับหลายๆ คณะที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมมากขึ้น" ประธาน ส.อ.ท.ระบุ
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการเห็นคือการที่ภาครัฐเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีความคล่องตัว แทนที่จะเป็นเรื่องการบังคับใช้กฎเกณฑ์ต่างๆ ขณะเดียวกันในเรื่องของราคาสินค้านั้น ควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนในเรื่องโลจิสติกส์ เพราะถือเป็นต้นทุนสำคัญหนึ่งในการประกอบธุรกิจ และมีผลต่อราคาสินค้า
สำหรับภาพรวมหน้าตาครม.ชุดใหม่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นั้น ประธาน กกร.มองว่า โดยภาพรวมแล้วถือว่าครม.ชุดนี้ใช้ได้ โดยเฉพาะครม.ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในแต่ละกระทรวงเศรษฐกิจสำคัญนั้น มีรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเติบโตมาจากหน่วยงานด้านนั้นโดยตรง เช่น กระทรวงการคลัง, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น และไม่รู้สึกกังวลที่คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะมีนายทหารระดับสูงหลายคนเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรี เพราะการบริหารงานของ คสช.ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีส่วนช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้นแก่ทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน