ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์เบื้องต้นของศูนย์วิจัยกสิกรไทย โดยคำนึงถึงการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งในส่วนน้ำมันและก๊าซ พบว่า ผลโดยสุทธิจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน อาจช่วยบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อลงได้ประมาณร้อยละ 0.2 เนื่องจากส่งผลทำให้ราคาพลังงานเฉลี่ยในกลุ่มที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ปรับลดลงในทันที ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ขยับขึ้น แต่ยังไม่เกิน 30 บาท/ลิตร และความเป็นไปได้ที่จะมีการเริ่มปรับราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่ง น่าจะยังไม่เพิ่มภาระมากนักต่อค่าบริการที่ผู้บริโภคเผชิญในช่วงที่เหลือของปีนี้ (อย่างไรก็ดี การต่อภาพเพื่อประเมินแนวโน้มในช่วงปีข้างหน้านั้น จะขึ้นอยู่กับกรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นสำคัญ)
โดยเมื่อพิจารณาผลจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และปัจจัยที่มีผลฉุดรั้งทิศทางราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงที่เหลือของปี 57 ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาส 3/57 และไตรมาส 4/57 น่าจะชะลอลงมาอยู่ที่ระดับประมาณร้อยละ 2.0 ซึ่งส่งผลทำให้ภาพรวมเงินเฟ้อทั้งปี 57 ผ่อนคลายลงมากกว่าที่เคยประเมินไว้
"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงพิจารณาปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ลงมาที่กรอบร้อยละ 2.0-2.2 (ค่ากลางกรณีพื้นฐานที่ร้อยละ 2.1) จากกรอบคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.4-2.8" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
พร้อมมองว่า สถานการณ์เงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงนี้ น่าจะเอื้อให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) สามารถยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.00 ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2557
ล่าสุด วันนี้กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ที่ร้อยละ 2.09 (YoY) ในเดือนส.ค. 2557 จากร้อยละ 2.16 (YoY) ในเดือนก.ค. ตามทิศทางราคาสินค้าในหมวดพลังงานและอาหารสด ซึ่งถือว่าแรงกดดันเงินเฟ้อผ่อนคลายลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3