ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 70.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 73.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 96.4
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นทุกรายการ และเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นและเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้
สำหรับปัจจัยบวกสำคัญ ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และมีการตั้งคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% โดยระบุว่านโยบายการเงินที่ผ่อนปรนยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) คาดการณ์ GDP ปี 58 โต 3.5-4.5% และ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่ปัจจัยลบ ประกอบด้วย สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57 เหลือ 1.5-2%, การส่งออกเดือนก.ค. หดตัว 0.9%, ราคาพืชผลการเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ, ผู้บริโภคกังวลปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้งราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง และความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก