นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.19/20 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วง
32.08/10 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่า เนื่องจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์หรือไม่
"บาททรงตัวที่ระดับ 32.15(บาท/ดอลลาร์) อยู่พักใหญ่ พอช่วงบ่ายอ่อนค่าพยายามไปทดสอบที่ระดับ 32.20(บาท/ดอลลาร์) มีแรงซื้อและแรงขายเข้ามาพอๆ กัน ทำให้ยื้อค่าบาทไม่ให้ไปไหนไกล ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคอ่อนค่ากันมาก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.10-32.25 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.25 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2945 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2940 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,582.13 จุด ลดลง 1.05 จุด, -0.07% มูลค่าการซื้อขาย 59,071.83 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 237.83 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยเงินบาทที่อ่อนค่าในขณะนี้ โดยภาพรวมค่าเงินบาทยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่ออกมาดี แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม ส่งผลให้ตลาดคาดว่าการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์หรือไม่
- ข้อมูลทางสถิติ ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมฝรั่งเศสขยายตัว 0.2% ในเดือน ก.ค. ซึ่งชะลอลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการขยายตัว 1.2% ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ข้อมูลเดือน ก.ค.ออกมาสวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าหดตัว 0.3% สำหรับช่วงไตรมาส 2 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งหดตัวลง 0.6% จากไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ผลผลิตภาคการผลิต ซึ่งเป็นมาตรวัดองค์ประกอบรวมทั้งหมดที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดหดตัวลง 0.3% ในเดือน ก.ค. หลังจากขยายตัว 1.6% ในเดือน มิ.ย.
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 120 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,600 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,256.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 12.99 ดอลลาร์สหรัฐ
- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้ให้คำมั่นต่อบรรดาซีอีโอทั่วโลกว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายจีดีพี 7.5% แม้ว่าเกิดความผันผวนบ้างเมื่อไม่นานมานี้ ในการประชุม 2014 Summer Davos ที่เทียนจิน โดยระบุว่าเศรษฐกิจจีนกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีตามเป้าหมาย แม้ว่าเกิดความผันผวนอยู่บ้างต่อเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจในเดือน ก.ค.และ ส.ค. โดยหลังจากที่จีดีพีได้ทรงตัวต่อเนื่อง ตลาดแรงงานจึงได้ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง