สำหรับสินค้าที่คาดว่าไทยจะได้รับประโยชน์จากการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ ได้แก่ สินค้ากลุ่มยานยนต์ พลาสติก เครื่องจักรกลการเกษตร น้ำตาลทราย และเครื่องปรับอากาศ
ส่วนด้านการลงทุน ไทยควรใช้อินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตสินค้าต้นทุนต่ำเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก และเป็นตลาดสำหรับสินค้าอีกทางหนึ่ง สำหรับสาขาที่น่าสนใจในอินโดนีเซีย ได้แก่ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารฮาลาล น้ำมัน ถ่านหิน และเหมืองแร่ สินค้าเกษตรแปรรูป ประมง สปา บริการทางการแพทย์ ธุรกิจก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้าง
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมต้นน้ำและกลางน้ำของอินโดนีเซียยังไม่เข้มแข็งนัก จึงเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ เพราะจีนได้ย้ายฐานการผลิตมายังไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และญี่ปุ่นเน้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนา ( R&D) ของภูมิภาค เพื่อเป็นฐานการผลิตเจาะตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ที่มีความต้องการยานยนต์สูงซึ่งจะช่วยให้ไทยรักษาความเป็นหมายเลข 1 ของอาเซียนด้านยานยนต์ได้