นายณรงค์ กล่าวว่า การผลักดันกฎหมายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลใดทำได้ เพราะต้องยอมรับว่าการเมืองไทยอยู่ในมือของคนรวย ถ้าออกเป็นกฎหมายจะมีผลกระทบต่อ ส.ส. นายทุนพรรค เจ้าขุนมูลนายที่ร่ำรวย ซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อกันทั้งสิ้น จึงไม่มีรัฐบาลใดกล้าทำ และเมื่อ สนช.ส่วนใหญ่เป็นคนที่ร่ำรวยตรงจุดนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่ก็อาจเป็นไปได้หากคนใน สนช.คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องยอมเสียสละ ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 50-60 ครอบครัว
อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องการจัดเก็บภาษีมรดกนั้น เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างยิ่ง ไม่ใช่ทำเพราะให้รัฐได้เงินเพิ่ม แต่ควรทำเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม คนบางคนเกิดมาบนกองเงินกองทองไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเสียภาษี ใช้เงินมรดกอย่างเดียว ซึ่งเมื่อเทียบกับคนงานที่ทำงานกว่า 80% ของการใช้ชีวิต ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง การจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดกเหล่านี้ เป็นข้อดี ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม จะมีการปฏิรูปที่ดิน คนที่มีที่ดินมากก็เริ่มคิดว่าเป็นภาระ และคิดที่จะขาย ที่ดินก็มีราคาถูกขึ้น เป็นกลไกให้เกิดการกระจายกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และจากที่ดินว่างเปล่าก็จะมีการใช้ทำประโยชน์สร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน เงินภาษีที่ได้ รัฐก็นำไปจัดทำสวัสดิการให้แก่คนที่มีความจำเป็นด้านต่างๆ ทั้งคนพิการ คนแก่ และเยาวชน โดยมีเบี้ยเลี้ยงให้ มีบริการรักษาพยาบาลฟรี และการศึกษาฟรี รวมทั้งพัฒนาด้านสาธารณประโยชน์และสาธารณูปโภค เพื่อให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศดีขึ้น
"ไม่สำคัญว่าจะเก็บภาษีมากหรือน้อย เพราะเป็นรายละเอียดที่ต้องศึกษา ปรับปรุงกันต่อไป วันนี้ขอแค่ได้เริ่มนับ 1 ก็ถือว่าดีแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยมีจุดเริ่มต้นจากรัฐบาลที่มี ส.ส. แต่เริ่มได้ที่มี คสช.เพราะมีอำนาจ ที่ต้องใช้ในทางที่ถูกให้เกิดประโยชน์ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ มองว่าขณะนี้มีความเป็นไปได้ 50 - 50 เพราะขึ้นอยู่กับ สนช.ด้วย จึงขอฝากความหวังไว้ที่รัฐบาลชุดนี้ ผลักดันให้ออกมาเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้ได้จริงตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ด้วย" นายณรงค์ กล่าว
ปัจจุบันมีผู้เสียภาษีทางตรงที่มาจากรายได้ จำนวน 8 ล้านคน แต่ที่ส่งแบบฟอร์มจ่ายจริงมีเพียง 2 ล้านคน ส่วนมาตรการการลงโทษคนที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษีและผู้ที่ให้การสนับสนุนนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องเพิ่มบทลงโทษ โดยปรับให้สูงขึ้นเป็น 10 เท่าตัว พร้อมกับการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนมีหน้าที่และรับผิดชอบต่อการเสียภาษี ไม่สร้างค่านิยมที่ผิดในการหลบเลี่ยง โดยเริ่มตั้งแต่การเรียนการสอนในชั้นประถมให้ตระหนักรู้ว่าหากไม่เสียภาษีจะไม่มีสะพานข้ามถนน ไม่มีสวนสาธารณะให้วิ่งเล่น ซึ่งการเสียภาษีก็เหมือนกับการจ้างรัฐให้มาอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ให้เราแทน
อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ขอเสนอให้รัฐบาล ออกกฎหมายให้ประชาชนทุกคนกรอกแบบฟอร์มรายได้เพื่อการจัดเก็บเสียภาษี เพราะมีพ่อค้า-แม่ค้า และผู้ประกอบกิจการอิสระหลายรายที่ไม่ต้องเสียภาษี ทั้งที่มีรายได้เดือนละเป็นแสน โดยเห็นว่าการจะขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น จะต้องเก็บภาษีให้ครอบคลุมกับกลุ่มคนที่มีรายได้สูงทุกประเภท ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องทำให้เงินในกระเป๋าของประชาชนมีมากขึ้น เพราะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจและชี้วัดค่าจีดีพี การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งต้องทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาถูก โดยเริ่มจากการลดปัญหาต้นทุนที่ส่วนใหญ่ต้องสูญเสียไปกับค่าพลังงานที่มีราคาแพง รัฐบาลต้องเข้ามาจัดการปัญหาพลังงานอย่างเร่งด่วน ด้วยการลดราคา ตัดการผูกขาดและเพิ่มปริมาณการผลิต รวมทั้งหามาตรการควบคุมไม่ให้มีการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือยด้วย