เงินบาทปิด 32.30/31 อ่อนค่าต่อตามภูมิภาค จับตาผลประชุมเฟด-กนง.สัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 15, 2014 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.30/31 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 32.26/27 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาคเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 32.25 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 32.31 บาท/ดอลลาร์
"ปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาคจากดอลลาร์แข็งค่า แต่บาทยังเปลี่ยนแปลงแค่ 0.2% ขณะที่ริงกิตเปลี่ยนแปลงมากถึง 1%" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่ตลาดจับตาคือผลประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ว่าจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์อย่างไร และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 17 ก.ย.57

นักบริหารเงิน ประเมินทิศทางเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.16-32.33 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.22 เยน/ดอลลาร์ ทรงตัวเท่าช่วงเช้า
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2924 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2965 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.12 จุด ลดลง 2.24 จุด, -0.14% มูลค่าการซื้อขาย 37,350.18 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 595.48 ล้านบาท(SET+MAI)
  • นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งตัวผันผวน โดยอิงไปทางด้านลบตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่เป็นลบ หลังจากเมื่อคืนวันศุกร์ดัชนีดาวโจนส์เป็นลบจากแรงขายทำกำไร เพราะแรงกดดันเกี่ยวกับการรอผลการประชุมเฟด ที่นักลงทุนลุ้นว่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯหรือไม่ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาดยังผันผวนอยู่จากปัจจัยการรอลุ้นผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมให้แนวต้าน 1,600 จุด แนวรับ 1,560 จุด
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่า จากการประเมินตัวเลขด้านเศรษฐกิจในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะไม่ติดลบเหมือนกับช่วงครึ่งปีแรก โดยมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั้งปียังขยายตัวได้ แม้จะขยายตัวไม่ถึง 2% ก็ตาม
  • นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ไม่มั่นใจอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ปีนี้จะโตได้ถึง 2% หรือไม่ แต่จะพยายามทำให้ได้เต็มที่ แต่เชื่อว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีขึ้น โดยน่าจะเห็น GDP ปีนี้โตได้มากกว่า 2% ขณะที่ปีหน้าเชื่อว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะดีกว่าในปีนี้อย่างแน่นอน
  • -พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าโต 4% จากปีนี้ 3.5% เน้นดูแลราคาสินค้าเกษตร-ค่าครองชีพ
  • ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นการเขียนในสิ่งที่ทำได้จริง ซึ่งในส่วนของนโยบายระยะสั้นจะต้องทำให้ลุล่วงภายใน 3 เดือน เพราะจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อจากนั้นจะเป็นการแก้ปัญหาระยะกลางที่ค้างอยู่ อาทิ การปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน โครงสร้างภาษี และโครงสร้างอุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น และส่วนสุดท้ายคือการวางรากฐานอนาคตที่เป็นระยะยาว
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของสิงคโปร์ เผยยอดค้าปลีกเดือน ก.ค.ปรับตัวขึ้น 5.5% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่ง โดยมูลค่ายอดค้าปลีกทั้งหมดในเดือน ก.ค.คาดว่าจะแตะที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์(2.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์(2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ยอดค้าปลีกลดลงเล็กน้อย 0.2% ในเดือน ก.ค.
  • รายงานภาคการผลิตในอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ของจีนที่เปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาล้วนไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนส่อแววชะลอตัวลงมากยิ่งขึ้น สำนักสถิติแห่งชาติจีนเผยผลผลิตในอุตสาหกรรมของจีนในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 9% ในเดือน ก.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ