นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หลังจากนี้ธนาคารจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการในการดูแลราคาข้าวเปลือกเจ้าที่คาดว่าราคาจะปรับตัวลดลงอีกในช่วงปลายเดือน ต.ค. – พ.ย. นี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้าที่มีความชื้นประมาณ 25% ราคาจะอยู่ที่ 7-7.5 พันบาท/ตัน ขณะที่ความชื้น 30% ราคารับซื้อจะลดลงมาอยู่ที่ 6-6.2 พันบาท/ตัน โดยรัฐบาลมองว่าระดับราคาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างมาก
"เป้าหมายของรัฐบาลคือการยกระดับราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่เกษตรกรจะอยู่ได้อย่างมีความสุข นั่นคือ 8-8.5 พันบาท/ตัน ที่ระดับความชื้น 15% แต่ปัจจุบันระดับราคาข้าวที่รับซื้อจริงปรับตัวลดลงต่ำมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ธนาคารเร่งหารือกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด" นายลักษณ์ กล่าว
นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้ระดับราคาข้าวปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งมาจากคุณภาพข้าวที่ยังไม่ได้มาตรฐาน เพราะมีความชื้นสูงมาก ดังนั้นหากจะยกระดับราคาข้าวให้เพิ่มสูงขึ้น เกษตรกรต้องขายข้าวให้กับโรงสีเพื่อเข้าสู่กระบวนการลดความชื้น ซึ่งจะมีผลในแง่ของต้นทุนตามมาอีก จึงเป็นประเด็นที่ต้องหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือต่อไป