(เพิ่มเติม1) กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด มองนโยบายผ่อนปรนยังจำเป็นช่วงศก.เริ่มฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 17, 2014 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุม ครั้งที่ 6/2557 วันที่ 17 ก.ย.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ตามตลาดคาดการณ์ โดยระบุว่านโยบายการเงินผ่อนปรนยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจระยะเริ่มแรก โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน

นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.วันนี้พิจารณาแล้วเห็นว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยมีความแตกต่างระหว่างภูมิภาค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุมประเทศยูโรและญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ แต่น่าจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ตามคาด และเศรษฐกิจเอเชียโดยรวมยังขยายตัวได้ใกล้เคียงเดิม

ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในประเทศของครัวเรือน ธุรกิจ และภาครัฐเริ่มฟื้นตัวและส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดด้านการผลิตและปัญหาราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อการส่งออกสินค้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก่อนปรับเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนระบบการเงินและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ

"คณะกรรมการฯ ประเมินว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบัน ยังมีความจำเป็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระยะเริ่มแรก โดยไม่กอ่ให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน คณะกรรมการฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี โดยการประชุมครั้งนี้กรรมการ 2 ท่าน ลาประชุม คือ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม" นายเมธี กล่าว

นายเมธี กล่าวว่า ความจำเป็นในการกระตุ้นการบริโภคโดยใช้มาตรการด้านการคลัง ต้องดูความเหมาะสมเป็นรายมาตรการ ซึ่งคงต้องใช้เวลา เพราะการกระตุ้นเกินความจำเป็นในช่วงที่ผ่านมาไม่มีความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในลักษณะ V-Shape โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/57 ที่ผ่านมา ซึ่งในสัปดาห์หน้า ธปท.จะนำปัจจัยทั้งหมดมาพิจารณาทบทวนคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในปี 57-58 อีกครั้ง รวมถึงการขยายตัวของภาคการส่งออกปีนี้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ