"ยังเป็นเพียงแนวคิด ยังไม่ final ก็มีสิทธิจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ เรื่องส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ" นายสมชาย กล่าว
พร้อมระบุว่า จะมีการรวบรวมประเด็นข้อสรุปผลดีผลเสียว่าจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในธุรกิจหรือสินค้าใด เพื่อนำเสนอต่อ รมว.คลัง ได้ราวเดือนต.ค.เพื่อพิจารณาต่อไป
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีสรรสามิตในธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจสปาต่อปีนั้นมีจำนวนไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรายได้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในแต่ละปี โดยธุรกิจสนามกอล์ฟจัดเก็บภาษีได้ปีละประมาณ 500 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจสปาจัดเก็บภาษีได้ปีละประมาณ 100-150 ล้านบาท
ทั้งนี้จะต้องพิจารณาประเด็นอื่นๆ ประกอบกับด้วย เช่น ความคุ้มค่าหรือไม่ในการส่งทีมเข้าไปตรวจสอบและบริหารการจัดเก็บภาษีในธุรกิจดังกล่าวที่มีอยู่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันต้องพิจาณาด้วยว่าเมื่อยกเลิกการจัดเก็บภาษีแล้วจะเป็นการช่วยสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว และบริการด้านสุขภาพหรือไม่