ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนสิงหาคม 2557 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ(FIDF 3) ที่ครบกำหนด จำนวน 32,603.29 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 17,603.29 ล้านบาท และการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การรายงานการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลจะไม่รวมการ Roll over ตั๋วเงินคลัง เนื่องจากการกู้เงินโดยการออกตั๋วเงินคลังเป็นการกู้ในรูปเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอกับการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการกู้เงินในขณะหนึ่งจะไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดย ณ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ.2557 มีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ-เงินสดจ่ายของรัฐบาล จำนวน 102,135 ล้านบาท และกระทรวงการคลังจะทำการ Roll over ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดตามอายุของตั๋วเงินคลังในแต่ละรุ่น
ส่วนการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนสิงหาคม 2557 ไม่มีการกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding)
สำหรับการชำระหนี้ของรัฐบาลในเดือนสิงหาคม 2557 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ 14,512.11 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณชำระหนี้ เป็นจำนวน 916.61 ล้านบาท ดังนี้ - ชำระหนี้ในประเทศ 381.38 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 78.25 ล้านบาท และดอกเบี้ย 303.13 ล้านบาท - ชำระหนี้ต่างประเทศ 535.23 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 374.49 ล้านบาท ดอกเบี้ย 148.70 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 12.04 ล้านบาท
2.การชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น เป็นจำนวน 13,595.50 ล้านบาท โดยเป็นการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) ทั้งจำนวน โดยแบ่งเป็นการชำระต้นเงินกู้ 10,738.77 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 1 ที่ได้รับจากการโอนสินทรัพย์คงเหลือในบัญชีผลประโยชน์ รวมถึงการชำระดอกเบี้ยจำนวน 2,856.73 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2
ทั้งนี้ แหล่งเงินที่นำเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2 ประกอบด้วย 1.เงินกำไรสุทธิของธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 2.เงินที่สถาบันการเงินนำส่งธนาคารแห่งประเทศไทย 3.เงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และ 4.เงินโอนจากบัญชีกองทุนเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ฯ
ส่วนผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนสิงหาคม 2557 รัฐวิสาหกิจได้มีการกู้เงินในประเทศเป็นเงิน 7,864 ล้านบาท
โดยผลการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนสิงหาคม 2557 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการขยายอายุสัญญาเงินกู้ (Roll Over) เป็นเงิน 16,000 ล้านบาท
ขณะที่ผลการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจเพื่อลดต้นทุนเงินกู้และป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในเดือนส.ค.57 กระทรวงการคลังได้บริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้สกุลเงินเยน อัตราดอกเบี้ยคงที่วงเงิน 26,293.25 ล้านเยน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยการแปลงเป็นหนี้สกุลเงินบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ทำให้ประหยัดต้นทุนได้ 1,653.74 ล้านบาท